top of page
  • Whatsapp
  • Line
  • โทรเลข
  • Facebook
  • Instagram
ค้นหา

อยากกระตุ้นคอลลาเจน เลือกใช้ Sculptra หรือ ฟิลเลอร์งานผิวอย่าง Profhilo, Definisse Hydrobooster ดีกว่ากัน

อยากกระตุ้นคอลลาเจน เลือกใช้ Sculptra หรือ ฟิลเลอร์งานผิวอย่าง Profhilo, Definisse Hydrobooster ดีกว่ากัน
อยากกระตุ้นคอลลาเจน เลือกใช้ Sculptra หรือ ฟิลเลอร์งานผิวอย่าง Profhilo, Definisse Hydrobooster ดีกว่ากัน

สวัสดีครับทุกคน! หมอโนโน่ นายแพทย์ ชนภัทร ชินเวชกิจวานิชย์ ว.60686 จาก Entrio Clinic คลินิกเวชกรรมความงามใจกลางราชประสงค์ ครับ ยินดีมากๆ ที่ได้กลับมาเจาะลึกเรื่องผิวสวยในแบบฉบับที่เรา "รู้จริง" และ "เข้าใจ" อย่างลึกซึ้งอีกครั้งครับ วันนี้ เราจะมาขยายความและทำความเข้าใจในรายละเอียดของนวัตกรรมที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในวงการความงาม โดยเฉพาะกลุ่ม Biostimulator หรือ สารกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์จากภายใน และแน่นอนว่า คำถามที่หลายท่านอยากได้คำตอบแบบชัดๆ คือ "อยากกระตุ้นคอลลาเจน ควรเลือกใช้ Sculptra หรือกลุ่มฟิลเลอร์งานผิวอย่าง Profhilo หรือ Definisse Hydrobooster ดีกว่ากัน?"


ในฐานะแพทย์ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ ผมเชื่อว่าการมีข้อมูลที่ถูกต้องและละเอียด จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่ "ใช่" ที่สุดสำหรับผิวของคุณได้ครับ วันนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงคุณสมบัติ กลไกการทำงาน และความแตกต่างของ Sculptra, Profhilo และ Definisse Hydrobooster ในมุมมองของผมเอง เพื่อให้คุณเห็นภาพและเข้าใจอย่างแท้จริงว่าแต่ละตัวมีบทบาทอย่างไรในการกระตุ้นคอลลาเจน และตัวไหนจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีที่สุดครับ

ทำความเข้าใจ Biostimulator: ไม่ใช่แค่ "เติมเต็ม" แต่คือการ "ปลุกพลังสร้างคอลลาเจนเอง"

หลายท่านที่เคยได้ยินชื่อ Biostimulator หรือ สารกระตุ้นคอลลาเจน อาจจะยังสับสนอยู่ว่ามันคืออะไรกันแน่? เหมือน Filler ไหม? หรือเป็นเครื่องมือยกกระชับ? วันนี้ หมอโนโน่ จะพาไป "รู้ลึก รู้จริง" ถึงกลไกการทำงานอันน่าทึ่งของ Biostimulator ครับ


ลองนึกภาพตามนะครับ เมื่อผิวของเราเริ่มมีสัญญาณแห่งวัยปรากฏขึ้น ทั้งความหย่อนคล้อย ริ้วรอย การสูญเสีย Volume ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ "โรงงานผลิต" คอลลาเจน อีลาสติน และ HA ของเรา ซึ่งก็คือเซลล์ Fibroblast มันเริ่มทำงานช้าลงและประสิทธิภาพลดลงครับ เหมือนเครื่องจักรในโรงงานที่เริ่มเก่าและกำลังผลิตไม่เต็มที่ สิ่งที่เราเห็นภายนอก คือ อาคารผิวหนังที่เริ่มทรุดโทรม โครงสร้างไม่แข็งแรงเหมือนเดิม


ในอดีต วิธีการแก้ปัญหาที่พบบ่อยคือการใช้ Dermal Filler (สารเติมเต็ม) ครับ Filler ส่วนใหญ่ เช่น Hyaluronic Acid Filler เป็นเหมือนการนำ "วัสดุก่อสร้างสำเร็จรูป" เข้าไป "เติมเต็ม" ในบริเวณที่ยุบตัว หรือใช้ "ค้ำยัน" โครงสร้างที่อ่อนแอครับ เมื่อฉีด Filler เข้าไปตรงไหน ส่วนนั้นก็จะดูเต็มขึ้น หรือริ้วรอยก็จะดูตื้นขึ้นทันที ผลลัพธ์ที่ได้รวดเร็วทันใจครับ เปรียบเสมือนการ "ซ่อมแซม" จุดที่เสียหายของอาคาร ด้วยการนำ "อิฐ" หรือ "ปูน" ไปถมช่องว่าง หรือเสริมฐานให้แน่นขึ้น นี่คือการแก้ปัญหาที่ "ปลายเหตุ" และเน้นที่การ "เติมเต็ม" ด้วยสารภายนอก ครับ Filler เป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นในหลายกรณีครับ โดยเฉพาะเมื่อต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและแม่นยำในการปรับรูปหน้าหรือเติม Volume เฉพาะจุด


แต่ Biostimulator แตกต่างออกไปครับ หัวใจสำคัญของ Biostimulator คือการไป "กระตุ้น" ครับ กระตุ้นอะไร? ก็กระตุ้น เซลล์ Fibroblast ของเรานี่แหละครับ!


Biostimulator ไม่ได้เข้าไปทำหน้าที่ "เติมเต็ม" เนื้อเยื่อที่หายไปแบบตรงๆ ทันทีเหมือน Filler ครับ แต่มันเป็นเหมือน "สัญญาณ" หรือ "วัตถุดิบชั้นดี" ที่เมื่อเข้าไปอยู่ในชั้นผิวแล้ว จะไปส่งสัญญาณบอกให้เซลล์ Fibroblast ที่กำลังทำงานเฉื่อยชา ให้กลับมา "ตื่น" ขึ้นมาทำงานอย่างแข็งขันอีกครั้งครับ เปรียบเสมือนการไป "ปลุก" เครื่องจักรในโรงงานผลิตคอลลาเจนของเราให้กลับมาเดินเครื่องเต็มกำลัง ครับ

กลไกการทำงานอันน่าทึ่งของ Biostimulator: "ปลุก" แล้วสร้างอย่างไร?


กลไกการทำงานอันน่าทึ่งของ Biostimulator: "ปลุก" แล้วสร้างอย่างไร?
กลไกการทำงานอันน่าทึ่งของ Biostimulator: "ปลุก" แล้วสร้างอย่างไร?

เมื่อ Biostimulator ถูกฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนัง (โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะครับ เพราะต้องเลือกชั้นที่เหมาะสมกับ Biostimulator แต่ละชนิด) สิ่งที่เกิดขึ้นคือ:

  1. การรับรู้และตอบสนองของเนื้อเยื่อ

ร่างกายจะรับรู้ว่ามี "สิ่ง" (Biostimulator) เข้ามาในชั้นผิว ซึ่งเป็นสารที่ปลอดภัยและเข้ากันได้ดีกับร่างกายครับ


  1. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการกระตุ้น

Biostimulator บางชนิด (เช่น Sculptra ที่เป็นอนุภาคเล็กๆ) จะสร้างสภาพแวดล้อมระดับจุลภาคในเนื้อเยื่อที่เอื้อต่อการดึงดูดและกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆ โดยเฉพาะ Fibroblast ครับ


  1. การส่งสัญญาณตรงไปยัง Fibroblast

สารสำคัญใน Biostimulator จะส่งสัญญาณผ่านช่องทางการสื่อสารของเซลล์ ไปยังเซลล์ Fibroblast โดยตรงครับ เหมือนการกดปุ่ม "เปิดสวิตช์" หรือ "กระตุ้นให้ทำงาน" ครับ สัญญาณเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้ Fibroblast ซึ่งปกติอาจทำงานได้ไม่เต็มที่เนื่องจากอายุ หรือปัจจัยอื่นๆ ให้ เพิ่มจำนวน (Proliferation) และ เพิ่มกิจกรรม (Activation) ในการทำงานครับ


  1. "โรงงานผลิต" กลับมาทำงานเต็มกำลัง

การสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และ HA ใหม่! เมื่อ Fibroblast ถูกกระตุ้นอย่างเต็มที่แล้ว พวกมันจะเริ่มกระบวนการ สังเคราะห์ (Synthesis) และ หลั่งสารสำคัญ ที่เป็นโครงสร้างของผิวออกมาครับ สิ่งสำคัญที่สุดที่พวกมันสร้างขึ้นมาใหม่ก็คือ คอลลาเจน (Collagen) โดยเฉพาะคอลลาเจน Type I และ Type III ซึ่งเป็นคอลลาเจนหลักที่ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่นในวัยเยาว์ นอกจากนี้ ยังกระตุ้นการสร้าง อีลาสติน (Elastin) ซึ่งคืนความยืดหยุ่นให้ผิว และ ไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA) ซึ่งให้ความชุ่มชื้นและ Volume กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่นี้เรียกว่า Neo-collagenesis และการสร้างอีลาสตินใหม่เรียกว่า Elastogenesis ครับ นี่คือหัวใจสำคัญ! Biostimulator ไม่ได้นำคอลลาเจนสำเร็จรูปจากภายนอกเข้าไปนะครับ แต่มันกระตุ้นให้ ร่างกายของคุณเอง สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ขึ้นมาเอง ครับ!


  1. การปรับโครงสร้าง Extracellular Matrix (ECM) ใหม่

นอกจากคอลลาเจน อีลาสติน และ HA แล้ว Fibroblast ยังสร้างส่วนประกอบอื่นๆ ของ ECM ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับเซลล์ผิว การที่ Biostimulator ไปกระตุ้น Fibroblast จึงเป็นการ "ปรับโครงสร้างผิวใหม่" (Skin Remodeling) ในระดับที่ลึกซึ้งกว่าครับ ทำให้โครงสร้างผิวโดยรวมมีความแข็งแรง มีระเบียบ และทำงานได้ดีขึ้นครับ

Biostimulator vs. Filler: กลไกที่แตกต่าง นำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่าง!

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ลองเปรียบเทียบกลไกของ Biostimulator กับ Filler อีกครั้งในเชิงโครงสร้างอาคารนะครับ


  • Dermal Filler (สารเติมเต็ม)

เปรียบเสมือนการนำ "อิฐ" หรือ "ปูน" ที่ผลิตสำเร็จจากภายนอก เข้าไป "เติมเต็ม" ช่องว่าง หรือเสริมในส่วนที่ทรุดโทรมของอาคารทันทีครับ เห็นผลเร็ว แก้ปัญหาเฉพาะจุดได้ดี


  • Biostimulator (สารกระตุ้นคอลลาเจน)

เปรียบเสมือนการไป "สร้างโรงงานผลิตอิฐ" ขึ้นมาใหม่ในบริเวณที่ต้องการ และ "ปลุก" คนงาน (Fibroblast) ให้กลับมา "ผลิตอิฐ" (คอลลาเจน อีลาสติน) ขึ้นมาเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ "ซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างอาคาร" จากภายในครับ

ผลลัพธ์จาก "การปลุกพลังสร้างเอง": ธรรมชาติ ยั่งยืน และมากกว่าแค่ Volume !

เนื่องจากผลลัพธ์ที่แท้จริงของ Biostimulator มาจากการที่ร่างกาย "สร้าง" คอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาเอง กระบวนการนี้จึงต้องใช้เวลาครับ


  • ผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไป

คุณจะไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบทันทีหลังฉีด Biostimulator นะครับ แต่จะเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในหลายสัปดาห์ และจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นผลเต็มที่ในหลายเดือน (ขึ้นอยู่กับชนิดของ Biostimulator และการตอบสนองของแต่ละบุคคล)


  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากๆ

นี่คือจุดเด่นที่สำคัญครับ เพราะ Volume หรือความแน่นกระชับที่ได้ มาจากเนื้อเยื่อ (คอลลาเจน อีลาสติน HA) ที่ร่างกายคุณสร้างขึ้นมาเอง มันจึงกลมกลืนไปกับผิวของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นก้อน หรือดู "ทำมา" ครับ เหมือนผิวของคุณอ่อนเยาว์ลงเองจริงๆ!


  • ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน

เนื่องจากเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างโครงสร้างผิวขึ้นมาใหม่เอง ผลลัพธ์จาก Biostimulator จึงอยู่ได้ยาวนานกว่า Filler ทั่วไปครับ โดยเฉลี่ยตั้งแต่ 1 ปี ไปจนถึง 2 ปี หรือมากกว่านั้นเลยครับ (ขึ้นอยู่กับชนิดของ Biostimulator และปัจจัยอื่นๆ) นี่คือการลงทุนเพื่อสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาวครับ


  • ผลลัพธ์ที่มากกว่าแค่ Volume

นอกจาก Volume ที่ได้จากการสร้างคอลลาเจนแล้ว กลไกของ Biostimulator ยังช่วยปรับปรุง คุณภาพผิว โดยรวมด้วยครับ ทั้งความเรียบเนียน ความยืดหยุ่น ความแน่นกระชับ ความกระจ่างใส และความแข็งแรงของผิว ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ

Biostimulator หลากหลายชนิด... แต่หลักการ "ปลุกพลังสร้างเอง" คือหัวใจสำคัญ

แม้ Biostimulator จะมีหลายชนิด หลายยี่ห้อ และมีสารสำคัญที่แตกต่างกันไป (เช่น PLLA ใน Sculptra, HA Complex ใน Profhilo, HA + Glycerol ใน Definisse Hydrobooster, PDLLA + HA ใน Juvelook) ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้ทำให้แต่ละชนิดมีจุดเด่นและเหมาะกับการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไป (ซึ่งเราจะเจาะลึกในแต่ละตัวต่อไป) แต่หลักการพื้นฐานที่เป็นแก่นของพวกมันก็คือการ "กระตุ้น" ให้เซลล์ Fibroblast สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่เอง นี่แหละครับ!


ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ ผมและทีมแพทย์เข้าใจถึงความสำคัญของกลไกนี้เป็นอย่างดีครับ เราจึงให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ Biostimulator ที่ได้มาตรฐาน และมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกลไกการทำงานของแต่ละชนิด เพื่อนำมาใช้ "ปลุกพลังสร้างเอง" ของผิวคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และให้ผลลัพธ์ ผิวเด็กอ่อนเยาว์ ที่ดูเป็นธรรมชาติและยั่งยืนอย่างแท้จริงครับ

การทำความเข้าใจว่า Biostimulator ไม่ใช่แค่ "เติมเต็ม" แต่คือการ "ปลุกพลังสร้างเอง" นี้ จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของการดูแลผิวที่แก่ขึ้นได้อย่างถูกต้องครับ และเห็นว่าทำไมการลงทุนกับ Biostimulator จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับสุขภาพผิวในระยะยาวครับ

Sculptra (สคาลป์ทรา): ยอด Biostimulator... เน้นสร้าง Volume และโครงสร้างผิวจากภายในอย่างยั่งยืน

Sculptra (สคาลป์ทรา): ยอด Biostimulator... เน้นสร้าง Volume และโครงสร้างผิวจากภายในอย่างยั่งยืน
Sculptra (สคาลป์ทรา): ยอด Biostimulator... เน้นสร้าง Volume และโครงสร้างผิวจากภายในอย่างยั่งยืน

Sculptra ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ฉีดเพื่อความงามทั่วไปครับ แต่มันคือนวัตกรรมที่เปรียบเสมือน "สถาปนิก" ผู้ชาญฉลาด ที่เข้ามาช่วย "ออกแบบ" และ "สร้าง" โครงสร้างผิวของคุณขึ้นมาใหม่จากภายใน อย่างเป็นธรรมชาติและยั่งยืนครับ! ด้วยความสามารถอันโดดเด่นในการ เน้นสร้าง Volume ที่หายไป และ ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ให้แข็งแรง Sculptra จึงเป็นคำตอบสำหรับหลายๆ ท่านที่ต้องการผลลัพธ์ที่มากกว่าแค่การแก้ไขปัญหาชั่วคราว

เจาะลึกสารสำคัญและกลไกการทำงานของ Sculptra: "Poly-L-Lactic Acid (PLLA)" ผู้ปลุกพลังสร้างโครงสร้าง

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Sculptra มีความพิเศษและแตกต่างจาก Biostimulator อื่นๆ หรือ Filler ทั่วไป คือ สารสำคัญ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ครับ


PLLA คืออะไร? 

PLLA เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ (Synthetic Polymer) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัย และมีการใช้ในวงการแพทย์มาอย่างยาวนานหลายสิบปีแล้วครับ เช่น ในไหมละลายทางการแพทย์ หรือวัสดุที่ใช้ในการผ่าตัดกระดูก ดังนั้นจึงมั่นใจได้ในเรื่องความเข้ากันได้กับร่างกาย (Biocompatible) ครับ


ใน Sculptra PLLA อยู่ในรูปแบบไหน? 

PLLA ใน Sculptra ไม่ได้อยู่ในรูปของเจล หรือของเหลวใสๆ แบบ Filler ทั่วไปนะครับ แต่มาในรูปของ อนุภาค (Microparticles) ขนาดเล็กมากๆ ครับ เมื่อจะนำมาใช้ แพทย์จะนำผง PLLA อนุภาคเล็กๆ เหล่านี้มาผสมกับน้ำกลั่นสำหรับฉีด (Sterile Water) เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการฉีดครับ


กลไกการทำงาน: มากกว่าแค่การกระตุ้น แต่คือการ "สร้าง" โครงสร้างใหม่!

เมื่อแพทย์ทำการฉีด Sculptra ซึ่งมีอนุภาค PLLA เหล่านี้เข้าไปใน ชั้นหนังแท้ส่วนลึก (Deep Dermis) หรือ ชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Layer) ในบริเวณที่ต้องการแก้ไขปัญหา เช่น บริเวณที่เกิด Volume Loss หรือบริเวณที่ต้องการเสริมโครงสร้าง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อนุภาค PLLA เหล่านี้จะไปอยู่ในเนื้อเยื่อครับ


อนุภาค PLLA จะทำหน้าที่สองอย่างหลักๆ ครับ อย่างแรก คือ เป็นเหมือน "นั่งร้าน" (Scaffold) ขนาดเล็กมากๆ ที่ให้เซลล์ต่างๆ ในเนื้อเยื่อ รวมถึงเซลล์ Fibroblast เข้ามาเกาะครับ อย่างที่สอง คือ อนุภาค PLLA จะ กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองของเซลล์ ครับ โดยเฉพาะการกระตุ้น เซลล์ Fibroblast ซึ่งเป็น "โรงงานผลิตคอลลาเจน" ของเรา ให้กลับมาทำงานอย่างแข็งขันและ เพิ่มจำนวน (Proliferation) มากขึ้นครับ


และจุดเด่นที่สำคัญมากๆ ของ Sculptra คือการกระตุ้นให้ Fibroblast "สร้างคอลลาเจนใหม่" ขึ้นมา โดยเน้นไปที่ คอลลาเจน Type I เป็นหลักครับ ทำไมต้องเน้น Type I? อย่างที่เราได้เรียนรู้ไปแล้วว่า คอลลาเจน Type I คือคอลลาเจนชนิดที่พบมากที่สุดในผิว และเป็นคอลลาเจนหลักที่ให้ ความแข็งแรง (Strength), Volume (ปริมาตร), และ โครงสร้าง (Structure) แก่ผิวในวัยเยาว์ครับ การที่ Sculptra กระตุ้นให้สร้างคอลลาเจน Type I ในปริมาณมาก จึงทำให้มันโดดเด่นในการฟื้นฟู Volume ที่หายไป และเสริมสร้างโครงสร้างผิวที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงขึ้นได้อย่างแท้จริงครับ


อนุภาค PLLA ใน Sculptra จะไม่ได้อยู่ในร่างกายเราตลอดไปนะครับ พวกมันจะค่อยๆ สลายตัวไปตามธรรมชาติ (Biodegrade) ในระยะเวลาหลายเดือน (ประมาณ 6-12 เดือน) แต่ในระหว่างที่มันค่อยๆ สลายตัวไปนี่แหละครับ ที่มันจะ กระตุ้น การสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อ PLLA สลายไปหมดแล้ว สิ่งที่ยังคงอยู่คือ โครงสร้างคอลลาเจน Type I ใหม่ ที่แข็งแรง ซึ่งร่างกายเราสร้างขึ้นเองครับ

ความแตกต่างจาก Filler ทั่วไป: กลไกนี้แตกต่างจาก Filler ทั่วไปอย่างชัดเจนครับ Filler ส่วนใหญ่แค่เข้าไป "เติมเต็ม" ช่องว่างทันที ด้วยสารจากภายนอก (ส่วนใหญ่เป็น HA) แต่ Sculptra เข้าไป "กระตุ้น" ให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อ (คอลลาเจน) ขึ้นมาเองครับ

ผลลัพธ์ที่โดดเด่นของ Sculptra: Volume ธรรมชาติ โครงสร้างแข็งแรง... อยู่กับเราไปนาน!

จากกลไกการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ Sculptra มอบผลลัพธ์ที่แตกต่างและน่าประทับใจครับ

  • การสร้าง Volume ที่เป็นธรรมชาติและกลมกลืน: เนื่องจาก Volume ที่ได้มาจากคอลลาเจนที่ร่างกายของคุณเองสร้างขึ้น กระบวนการจึงเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปในหลายเดือนครับ ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูเป็นธรรมชาติมากๆ กลมกลืนไปกับผิวของคุณเอง ไม่มีใครรู้ว่าไปทำอะไรมา แต่สังเกตได้ว่าดูอ่อนเยาว์ลง ใบหน้าดูเต็มขึ้น ไม่โทรมครับ ไม่ดูเป็นก้อน หรือดู "ทำมา" ครับ


  • ฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในอย่างยั่งยืน: การที่ Sculptra กระตุ้นให้สร้างคอลลาเจน Type I ซึ่งเป็นโครงสร้างหลัก ทำให้ผิวโดยรวมแข็งแรงขึ้น มีความแน่นกระชับ และยืดหยุ่นขึ้นครับ เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แค่การแก้ไขปลายเหตุ


  • ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน: เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่ได้มาจากการสร้างคอลลาเจนใหม่ของร่างกาย ผลลัพธ์ของ Sculptra จึงอยู่ได้ยาวนานกว่า Filler ทั่วไปครับ โดยเฉลี่ย 1-2 ปี หรือในบางรายอาจถึง 2 ปีขึ้นไปเลยครับ ทำให้เป็นการลงทุนเพื่อผิวในระยะยาวที่คุ้มค่ามากๆ ครับ


  • ผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไป ดูดีขึ้นเรื่อยๆ: คุณจะไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนทันทีหลังฉีดนะครับ อาจเห็น Volume จากน้ำที่ใช้ผสมเล็กน้อยซึ่งจะถูกดูดซึมไปในไม่กี่วัน แต่ผลลัพธ์จากการสร้างคอลลาเจนจะค่อยๆ ปรากฏใน 1-2 เดือน และชัดเจนเต็มที่ใน 3-6 เดือนหลังฉีด ซึ่งทำให้การเปลี่ยนแปลงดูเป็นธรรมชาติมากๆ

Sculptra เหมาะสำหรับใคร?

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น Sculptra จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้ครับ

  • ผู้ที่มีปัญหา Volume Loss ทั่วใบหน้าอย่างชัดเจน เช่น แก้มตอบ ขมับตอบ ใต้ตาดูเป็นเบ้าลึก ใบหน้าดูโทรม ขาดความอิ่มเอิบ

  • ผู้ที่ต้องการ ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ให้กลับมาแข็งแรง แน่นกระชับ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในระยะยาว

  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดู เป็นธรรมชาติมากๆ ไม่มีใครรู้ว่าทำอะไรมา แต่รู้สึกว่าดูดีขึ้น อ่อนเยาว์ลง

  • ผู้ที่สามารถ รอผลลัพธ์ที่ค่อยๆ ปรากฏ ในระยะเวลาหลายเดือนได้

  • ผู้ที่ต้องการการลงทุนเพื่อผิวที่ให้ผลลัพธ์ ยาวนาน


Sculptra เหมาะสำหรับใคร?
Sculptra เหมาะสำหรับใคร?

บริเวณที่นิยมทำ Sculptra

Sculptra สามารถใช้ฉีดได้ในหลายบริเวณบนใบหน้าและลำตัว เพื่อฟื้นฟู Volume และโครงสร้างผิวครับ

  • ขมับ: แก้ปัญหาขมับตอบ ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและอ่อนเยาว์ขึ้น

  • หน้าแก้ม: โดยเฉพาะบริเวณที่เนื้อยุบลง ช่วยให้แก้มดูเต็มขึ้น และช่วยยกกระชับเล็กน้อย

  • กรอบหน้า (Jawline): ช่วยเสริมโครงสร้าง ทำให้กรอบหน้าดูชัดเจนขึ้น

  • ทั่วใบหน้า: ในเทคนิคการฉีดเพื่อฟื้นฟูโครงสร้างผิวโดยรวม

  • บริเวณอื่นๆ: เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก (อาจฉีดบริเวณรอบๆ เพื่อเสริมโครงสร้างและการพยุง ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์) หรือบริเวณลำคอ หลังมือ (ขึ้นอยู่กับการประเมินและเทคนิคของแพทย์)

ขั้นตอนการทำ Sculptra ที่ Entrio Clinic ราชประสงค์ (โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ)

การทำ Sculptra เป็นหัตถการที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และเข้าใจในกลไกการทำงานเป็นอย่างดีครับ ที่ Entrio Clinic ราชประสงค์ เราให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน

  • การปรึกษาและประเมิน: แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข และความคาดหวังของคุณอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษา กำหนดจำนวนขวดและบริเวณที่จะฉีด

  • การเตรียม Sculptra: Sculptra ต้องได้รับการผสมกับน้ำกลั่นสำหรับฉีดล่วงหน้าตามคำแนะนำของผู้ผลิต อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงถึงหลายวันในการเตรียมเพื่อให้ได้ความเข้มข้นที่เหมาะสมก่อนฉีด

  • การทายาชา: ทายาชาบริเวณที่จะฉีดเพื่อลดความรู้สึกไม่สบายระหว่างทำ

  • การฉีด Sculptra: แพทย์จะทำการฉีด Sculptra เข้าไปในชั้นผิวที่เหมาะสม ด้วยเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องและแม่นยำ เพื่อให้ PLLA กระจายตัวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การนวดหลังฉีด: แพทย์จะทำการนวดบริเวณที่ฉีดทันที และแนะนำให้คนไข้นวดด้วยตัวเองหลังกลับบ้านตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด (หลัก 5x5x5: นวดครั้งละ 5 นาที วันละ 5 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน) การนวดช่วยให้ PLLA กระจายตัวได้ดี และลดความเสี่ยงในการเกิดก้อน

  • การติดตามผล: แพทย์จะนัดหมายเพื่อติดตามผล และอาจพิจารณาการฉีดเพิ่มเติมในครั้งต่อไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ (มักต้องทำหลายครั้ง เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนให้ได้ปริมาณที่เพียงพอ)

ข้อควรทราบและข้อจำกัดของ Sculptra

  • ผลลัพธ์ไม่เห็นทันที: ต้องใช้เวลาในการรอผลลัพธ์

  • ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์: การเตรียมยา เทคนิคการฉีด และการเลือกบริเวณที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

  • อาจเกิดก้อน (Nodule) ได้: หากฉีดผิดชั้น หรือการนวดไม่เพียงพอ (แต่ความเสี่ยงต่ำมากเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ)

  • ไม่เหมาะกับการแก้ไขริ้วรอยตื้นๆ หรือปัญหาผิวชั้นบน: Sculptra เหมาะกับปัญหา Volume Loss และโครงสร้างลึกๆ มากกว่า

  • อาจต้องทำหลายครั้ง: เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การกระตุ้นคอลลาเจนที่ชัดเจนและเพียงพอ

กลุ่ม "ฟิลเลอร์งานผิว" ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นคอลลาเจน: Profhilo และ Definisse Hydrobooster... เน้น "คุณภาพผิว" และ "ความชุ่มชื้น" พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนเสริม


หลังจากที่เราได้ทำความเข้าใจไปแล้วว่า Biostimulator คืออะไร แตกต่างจาก Filler ทั่วไปอย่างไร และเจาะลึก Sculptra ซึ่งโดดเด่นในการสร้าง Volume และโครงสร้างไปแล้ว วันนี้เราจะมา "เจาะลึก" อีกหนึ่งกลุ่มสำคัญของ Biostimulator ที่ผมให้ความสำคัญมากๆ ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ นั่นคือ กลุ่ม "ฟิลเลอร์งานผิว" ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นคอลลาเจน ครับ ซึ่งตัวแทนที่เราจะมาทำความรู้จักกันให้ละเอียดวันนี้ คือ Profhilo (โปรฟิโล) และ Definisse Hydrobooster (เดฟินิส ไฮโดรบูสเตอร์) ครับ


กลุ่มนี้ไม่ได้เน้นการสร้าง Volume ปริมาณมากเหมือน Sculptra แต่มีจุดแข็งที่เน้นไปที่ "คุณภาพผิว" และ "ความชุ่มชื้น" พร้อมๆ กับการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว เพื่อให้ผิวดูดีขึ้นจากภายในในอีกมิติหนึ่งครับ เปรียบเสมือนการดูแล "พื้นผิว" และ "เนื้อแท้" ของอาคารผิวหนังให้สวยงามและแข็งแรงขึ้นครับ 

Profhilo (โปรฟิโล): Biostimulator แห่งคุณภาพผิว... อิ่มฟู แน่นกระชับ โกลว์ใส จากภายใน 

Profhilo (โปรฟิโล): Biostimulator แห่งคุณภาพผิว... อิ่มฟู แน่นกระชับ โกลว์ใส จากภายใน 
Profhilo (โปรฟิโล): Biostimulator แห่งคุณภาพผิว... อิ่มฟู แน่นกระชับ โกลว์ใส จากภายใน 

Profhilo ไม่ได้เป็นแค่หัตถการความงามทั่วไปครับ แต่มันคือ "การบำรุงผิวอย่างล้ำลึกระดับโครงสร้าง" ที่เข้าไป "รีเซ็ต" และ "ฟื้นฟูคุณภาพผิว" ของคุณจากภายในอย่างแท้จริง ด้วยกลไกที่เป็นเอกลักษณ์ และผลลัพธ์ที่เน้นไปที่ความสดใส เปล่งปลั่ง และสุขภาพดีของผิว Profhilo จึงเป็นคำตอบสำหรับหลายๆ ท่านที่ต้องการให้ผิวดูดีขึ้นโดยรวมอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ต้องการปรับเปลี่ยนรูปหน้าแบบชัดเจนครับ 

เจาะลึกสารสำคัญและกลไกการทำงานอันเป็นเอกลักษณ์ของ Profhilo: "HA Complex" ความบริสุทธิ์สูง... ผู้ปลุกพลังแห่งคุณภาพผิว! 

ความพิเศษของ Profhilo เริ่มที่ต้นสารสำคัญครับ

สารสำคัญ: Hyaluronic Acid (HA) Complex บริสุทธิ์สูงถึง 100% ที่ "ไม่" Cross-linked แบบ Filler ทั่วไป 

สารสำคัญหลักคือ Hyaluronic Acid หรือ HA ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในผิวหนังของเรา มีหน้าที่สำคัญในการอุ้มน้ำและให้ความชุ่มชื้น แต่ HA ใน Profhilo นั้น แตกต่าง จาก HA ใน Dermal Filler ทั่วไปอย่างสิ้นเชิงครับ


HA ใน Profhilo มีความ บริสุทธิ์สูงถึง 100% และที่สำคัญที่สุดคือ มัน "ไม่ผ่านกระบวนการ Cross-linking" หรือการเชื่อมโมเลกุลให้เป็นร่างแหเพื่อความคงตัวเป็นก้อนเหมือนใน HA Filler ทั่วไปที่ใช้เติมเต็ม Volume ครับ


Profhilo ใช้เทคโนโลยีการผลิตพิเศษที่เรียกว่า Bio-compatible Thermal Cross-linking ซึ่งเป็นการใช้ความร้อนในการเชื่อมโมเลกุล HA สองขนาด (High-molecular-weight และ Low-molecular-weight HA) เข้าด้วยกัน กระบวนการนี้ทำให้ได้ HA Complex ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวคือ มีความหนืดต่ำมากๆ (Low Viscosity) ซึ่งแตกต่างจาก Filler ที่มีความหนืดสูง และที่สำคัญคือ HA Complex นี้ยังคงคุณสมบัติในการเป็น Biostimulator ได้ดีเยี่ยม


ความเข้มข้นของ HA ใน Profhilo ก็สูงมากๆ ครับ โดยมี HA เข้มข้นถึง 64 มิลลิกรัม ใน 2 มิลลิลิตร ซึ่งถือว่ามีความเข้มข้นสูงกว่า HA Filler หรือ Skinbooster ทั่วไปหลายเท่าตัวเลยครับ

กลไกการทำงานเชิงลึก: กระจายตัวอย่างรวดเร็ว... สู่การ "รีเซ็ต" และ "ปรับโครงสร้าง" ชั้นหนังแท้! 

ด้วยคุณสมบัติที่เป็น HA Complex ที่มีความหนืดต่ำและไม่ Cross-linked เมื่อแพทย์ทำการฉีด Profhilo เข้าไปในชั้นหนังแท้ โดยใช้เทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า BAP (Bio Aesthetic Point) Technique ซึ่งเป็นเทคนิคการฉีดเพียง 5 จุดต่อครึ่งหน้า (10 จุดทั่วใบหน้า) ที่มีการคำนวณมาแล้วว่าเป็นจุดที่ปลอดภัยและช่วยให้สารกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมพื้นที่กว้างที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นคือ HA Complex ที่ฉีดเข้าไปจะ ไม่คงที่เป็นก้อน อยู่ในจุดที่ฉีดเหมือน Filler ครับ แต่จะ กระจายตัวอย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ ไปทั่วทั้งชั้นหนังแท้และชั้นใกล้เคียงในบริเวณที่ฉีดครับ เปรียบเสมือนการฉีด "ไฮโดรเจล" คุณภาพสูง ที่ค่อยๆ ซึมและกระจายไปทั่ว "ฟองน้ำ" ของผิวหนังครับ


การที่ HA Complex ความเข้มข้นสูงนี้กระจายตัวอยู่ในชั้นผิวอย่างทั่วถึง นี่แหละครับ คือหัวใจสำคัญที่ไป "ส่งสัญญาณ" และ "กระตุ้น" เซลล์ Fibroblast ให้ทำงานอย่างเต็มที่!


HA Complex จะไปมีปฏิสัมพันธ์กับส่วนประกอบต่างๆ ของเนื้อเยื่อผิว และที่สำคัญคือไปจับกับ ตัวรับสัญญาณ (Receptors) บนผิวของเซลล์ Fibroblast ทำให้เซลล์เหล่านี้ถูก "ปลุกให้ตื่น" และ "เพิ่มจำนวน (Proliferation)" มากขึ้น รวมถึง "เพิ่มกิจกรรม (Activation)" ในการผลิตสารสำคัญ

สารสำคัญที่ Fibroblast สร้างขึ้นมาใหม่จากการกระตุ้นของ Profhilo คือ คอลลาเจน (โดยเฉพาะ Type I และ Type III) ซึ่งให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น, อีลาสติน (Elastin) ซึ่งคืนความยืดหยุ่นให้กับผิว, และที่สำคัญคือ Hyaluronic Acid (HA) ที่ร่างกายสร้างขึ้นเอง (Endogenous HA) ครับ การที่ Profhilo กระตุ้นให้สร้างสารสำคัญครบทั้งสามชนิดนี้ ในชั้นหนังแท้โดยตรง จึงเป็นการ "ปรับโครงสร้างผิวในชั้นหนังแท้ใหม่ทั้งหมด" (Dermal Remodeling) ครับ ไม่ใช่แค่การเติมเต็ม แต่เป็นการ "สร้างเนื้อแท้" ของผิวขึ้นมาใหม่ ทำให้โครงสร้างผิวโดยรวมมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลลัพธ์ที่โดดเด่นของ Profhilo: มากกว่าแค่ "เติมเต็ม" แต่คือ "ผิวเด็กอ่อนเยาว์" ในมิติใหม่! 

จากกลไกการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ Profhilo มอบผลลัพธ์ที่เน้นไปที่ "คุณภาพผิว" เป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจาก Sculptra ที่เน้น Volume และโครงสร้าง หรือ Filler ทั่วไปที่เน้นการเติมเต็มเฉพาะจุด ผลลัพธ์ของ Profhilo จะทำให้ผิวดูดีขึ้นจากภายในอย่างเป็นธรรมชาติครับ


  • Intense Hydration และ "Hydro Effect" / "Glass Skin" 

ด้วยความเข้มข้นของ HA Complex ที่สูงมาก และการกระจายตัวที่ทั่วถึง Profhilo ช่วยดึงน้ำเข้ามาในชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ผลลัพธ์คือผิวที่ดู อิ่มฟู เต่งตึง ดูฉ่ำน้ำ ราวกับ "Glass Skin" ครับ ผิวที่ชุ่มชื้นอย่างแท้จริงจะดูสดใส และริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดจากผิวขาดน้ำก็ดูจางลง


  • Improvement in Skin Firmness และ "Lifting Effect" ที่มาจากคุณภาพผิว

แม้ Profhilo จะไม่ได้เน้นการยกกระชับโครงสร้างลึกๆ เหมือนเครื่องมือพลังงานสูงอย่าง Ultherapy หรือ Oligio แต่การที่มันกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในชั้นหนังแท้ ก็ช่วยให้ผิวโดยรวมมี ความแน่นกระชับ ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ หลายคนจะรู้สึกว่าผิวดู ยกกระชับขึ้นเล็กน้อย อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่โครงสร้างผิวในชั้นหนังแท้แข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้นครับ


  • Enhanced Elasticity: ผิวดูยืดหยุ่นและเด้งขึ้น

การกระตุ้นการสร้างอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นดีขึ้น ผิวจะดูเด้ง ไม่ยับง่าย เมื่อแสดงสีหน้าแล้วผิวก็คืนรูปเดิมได้ดีขึ้นครับ


  • Improved Radiance และ "Glow": ผิวดูใส เปล่งปลั่ง มีออร่า

ผิวที่ได้รับความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก และมีโครงสร้างที่ดีขึ้นจากการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ จะดูสุขภาพดี มีการไหลเวียนที่ดีขึ้น ทำให้ผิวดู กระจ่างใส เปล่งปลั่ง มีออร่า อย่างเป็นธรรมชาติครับ


  • Reduction in Fine Lines และ Crepiness: ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยตื้นๆ จางลง

ผิวที่อิ่มน้ำ แน่นกระชับ และยืดหยุ่นขึ้นจากผลของ Profhilo จะทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยเล็กๆ โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดจากผิวขาดน้ำหรือความยืดหยุ่นลดลง ดูจางลงอย่างเห็นได้ชัดครับ


  • Improved Skin Texture และ Smoothness: ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน

การปรับโครงสร้างชั้นหนังแท้ให้แข็งแรงและมีระเบียบมากขึ้น ก็มีส่วนช่วยให้พื้นผิวของผิวหนังดูเรียบเนียนขึ้นด้วยครับ


  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากๆ

เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้มาจากการฟื้นฟูโครงสร้างผิวของคุณเอง กระบวนการเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเน้นที่คุณภาพผิวโดยรวม ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูเป็นธรรมชาติมากๆ ครับ

Profhilo เหมาะสำหรับใคร?

Profhilo เหมาะสำหรับใคร?
Profhilo เหมาะสำหรับใคร?

ด้วยคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ Profhilo จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาและต้องการผลลัพธ์เหล่านี้ครับ

  • ผู้ที่มีปัญหา ผิวแห้งขาดน้ำ ผิวดูไม่สดใส ไม่เปล่งปลั่ง

  • ผู้ที่มีปัญหา ผิวดูโทรม ผิวขาดความมีชีวิตชีวา

  • ผู้ที่รู้สึกว่าผิวเริ่ม ขาดความยืดหยุ่น และ ความแน่นกระชับ เริ่มมี ริ้วรอยเล็กๆ ทั่วใบหน้า

  • ผู้ที่ต้องการ ปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ให้ดูสุขภาพดีขึ้น อิ่มฟู โกลว์ใส อย่างเป็นธรรมชาติ

  • ผู้ที่ต้องการ กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ในชั้นผิวอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ผู้ที่ ไม่ต้องการผลลัพธ์การเติม Volume หรือการปรับเปลี่ยนรูปหน้าที่ชัดเจนมากนัก

  • ผู้ที่ต้องการหัตถการที่ใช้จำนวนจุดฉีดน้อย รู้สึกสบาย ระหว่างทำ (เมื่อเทียบกับการฉีดแบบกระจายทั่วหน้า) 

บริเวณที่นิยมทำ Profhilo: 

Profhilo สามารถใช้ฉีดได้ในหลายบริเวณที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิวครับ

  • ทั่วใบหน้า: โดยใช้เทคนิค BAP 5 จุดต่อครึ่งหน้า (รวม 10 จุด) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ออกแบบมาเพื่อให้ HA Complex กระจายตัวครอบคลุมทั่วใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ลำคอ: ช่วยฟื้นฟูผิวบริเวณลำคอที่มีปัญหาเรื่องความเหี่ยว ความยืดหยุ่น และริ้วรอย

  • หลังมือ: ช่วยฟื้นฟูผิวบริเวณหลังมือที่มักมีปัญหาเรื่องความแห้ง ริ้วรอย และดูเหี่ยวย่น

  • ท้องแขน: ช่วยฟื้นฟูผิวบริเวณท้องแขนที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยและความไม่เรียบเนียน 

โปรแกรม Profhilo ที่ Entrio Clinic ราชประสงค์:

โดยทั่วไปแล้ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มักจะแนะนำให้ทำ Profhilo เป็นคอร์สครับ

  • โปรแกรมมาตรฐาน: มักจะแนะนำให้ทำ 2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน ครับ เพื่อให้การกระตุ้นคอลลาเจน อีลาสติน และ HA เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ

  • การรักษาเพื่อคงผลลัพธ์: หลังจากครบ 2 ครั้งแรกแล้ว แนะนำให้ทำ ซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อคงสภาพผิวที่ดี และชะลอการเสื่อมสภาพของผิวตามวัย 

ข้อควรทราบเกี่ยวกับ Profhilo:

  • ผลลัพธ์ไม่เห็น Volume ชัดเจน: Profhilo ไม่ใช่ Filler ที่เน้นการเติม Volume เพื่อปรับรูปหน้าครับ

  • ต้องอาศัยเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง: การฉีดด้วยเทคนิค BAP และในชั้นผิวที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ Profhilo กระจายตัวได้ดีและให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

  • อาจมีรอยนูนเล็กน้อยหลังฉีด: ในบางจุดที่ฉีด อาจมีรอยนูนเล็กๆ คล้ายตุ่มยุงกัด ซึ่งจะค่อยๆ ยุบและหายไปเองภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือไม่กี่วัน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวแต่ละบุคคล

Profhilo คือ Biostimulator ที่โดดเด่นอย่างแท้จริงในเรื่อง "คุณภาพผิว" ครับ มันเข้าไป "ปลุกพลังสร้างเอง" ของผิวให้กลับมาสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และ HA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวโดยรวมดูอิ่มฟู ชุ่มชื้น แน่นกระชับ โกลว์ใส ขึ้นจากภายใน เป็นการฟื้นฟูผิวที่ดูเป็นธรรมชาติมากๆ


ถ้าคุณกำลังมองหาการแก้ไขปัญหาผิวที่แห้งโทรม ขาดความสดใส เริ่มมีริ้วรอยเล็กๆ หรือต้องการให้ผิวโดยรวมดูมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ Program Profhilo ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ คือตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งครับ

Definisse Hydrobooster (เดฟินิส ไฮโดรบูสเตอร์): Skinbooster คุณภาพสูง พร้อมคุณสมบัติกระตุ้นคอลลาเจนเสริม 

Definisse Hydrobooster (เดฟินิส ไฮโดรบูสเตอร์): Skinbooster คุณภาพสูง พร้อมคุณสมบัติกระตุ้นคอลลาเจนเสริม 
Definisse Hydrobooster (เดฟินิส ไฮโดรบูสเตอร์): Skinbooster คุณภาพสูง พร้อมคุณสมบัติกระตุ้นคอลลาเจนเสริม 

หลังจากที่เราได้เจาะลึก Sculptra ที่เน้นการสร้าง Volume และโครงสร้าง และ Profhilo ที่เน้นการฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวมไปแล้ว วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งนวัตกรรมในกลุ่ม "ฟิลเลอร์งานผิว" ที่น่าสนใจมากๆ และโดดเด่นในเรื่อง "ความชุ่มชื้น" พร้อมคุณสมบัติ "กระตุ้นคอลลาเจนเสริม" นั่นคือ Definisse Hydrobooster ไม่ใช่แค่ Skinbooster ทั่วไปครับ แต่มันคือ "Skinbooster คุณภาพสูงที่ให้มากกว่าแค่ความชุ่มชื้น" ด้วยการเพิ่มคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเข้ามา ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับผู้ที่ปัญหาหลักคือ ผิวแห้งขาดน้ำ ผิวดูไม่สดใส และมีริ้วรอยเล็กๆ ครับ

เจาะลึกสารสำคัญและกลไกการทำงานของ Definisse Hydrobooster: HA + Glycerol... คู่หูแห่งความชุ่มชื้นและการกระตุ้นเสริม! 

ความพิเศษของ Definisse Hydrobooster อยู่ที่ส่วนประกอบและกลไกการทำงานที่เน้นไปที่การให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก พร้อมคุณสมบัติ Biostimulation ครับ 


สารสำคัญ: Non-Cross-linked Hyaluronic Acid (HA) + Glycerol

  • Non-Cross-linked HA

Definisse Hydrobooster มีส่วนประกอบเป็น Hyaluronic Acid หรือ HA เช่นเดียวกับ Filler ทั่วไปครับ แต่จุดสำคัญคือ HA ใน Definisse Hydrobooster นั้น "ไม่ผ่านกระบวนการ Cross-linking" หรือการเชื่อมโมเลกุลให้เป็นร่างแหอย่างถาวรเหมือน HA Filler ที่ใช้เติม Volume ครับ HA ที่ไม่ Cross-linked จะมีลักษณะเป็นสายโมเลกุลตรงๆ มีความหนืดน้อยกว่า และเน้นคุณสมบัติในการ อุ้มน้ำ และ กระจายตัว ในชั้นผิวได้ดีครับ มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อคงรูปและให้ Volume ที่ชัดเจน แต่เน้นไปที่การให้ความชุ่มชื้นครับ


  • Glycerol

นอกจาก HA แล้ว Definisse Hydrobooster ยังมี Glycerol เป็นส่วนประกอบสำคัญครับ Glycerol เป็นสารในกลุ่ม Sugar Alcohol ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Humectant หรือสารที่ช่วย ดูดความชื้น จากอากาศ และ กักเก็บน้ำ ไว้ในชั้นผิวได้อย่างดีเยี่ยมครับ การมี Glycerol ผสมกับ HA ที่ไม่ Cross-linked ถือเป็นการเสริมฤทธิ์ (Synergistic Effect) ในการให้ความชุ่มชื้น ทำให้ Definisse Hydrobooster สามารถนำพาและกักเก็บน้ำไว้ในชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ Glycerol ยังอาจมีบทบาทในการช่วยเสริมการทำงานของ Barrier ผิว และมีผลต่อกระบวนการเผาผลาญในเซลล์ผิวบางอย่างได้ด้วยครับ

กลไกการทำงานเชิงลึก: ให้ความชุ่มชื้นแบบจัดเต็ม... พร้อม "กระตุ้นคอลลาเจน" เสริม! 

กลไกหลักที่โดดเด่นที่สุดของ Definisse Hydrobooster คือการ ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกและยาวนาน ในชั้นหนังแท้ (Dermis) ครับ เมื่อฉีดเข้าไป HA และ Glycerol จะทำหน้าที่ดึงน้ำเข้ามาและกักเก็บไว้ เปรียบเสมือนการ "รดน้ำ" ให้กับชั้นผิวที่แห้งเหี่ยว ให้กลับมาอิ่มน้ำ ดูเต่งตึงจากภายในครับ ผิวที่ชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ จะดูสดใส มีชีวิตชีวา และมีความยืดหยุ่น

นอกจากบทบาทหลักในการให้ความชุ่มชื้นแล้ว Definisse Hydrobooster ยังมีคุณสมบัติในการ กระตุ้นเซลล์ Fibroblast ให้สร้างคอลลาเจนได้ในระดับหนึ่ง ครับ แม้ว่าความสามารถในการกระตุ้นคอลลาเจนอาจจะไม่เข้มข้นเท่า Sculptra ที่เน้นสร้าง Volume หรือ Profhilo ที่เน้นฟื้นฟูโครงสร้างชั้นหนังแท้โดยรวม แต่คุณสมบัตินี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ Definisse Hydrobooster แตกต่างจาก Skinbooster ที่เป็น HA เพียวๆ ครับ การกระตุ้นคอลลาเจนที่เกิดขึ้น จะช่วยเสริมให้ผิวมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้นเล็กน้อยครับ


ผลกระทบต่อ Extracellular Matrix (ECM) 

Definisse Hydrobooster เข้าไปปรับปรุงสภาพแวดล้อมใน ECM โดยเน้นไปที่การเพิ่มระดับความชุ่มชื้น ทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆ เซลล์และเส้นใยคอลลาเจน/อีลาสติน ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของเซลล์และการรักษาสภาพโครงสร้างผิวที่มีอยู่

ผลลัพธ์ที่โดดเด่นของ Definisse Hydrobooster: "ผิวอิ่มน้ำ" "โกลว์ใส" และ "กระชับขึ้นเล็กน้อย"

จากส่วนประกอบและกลไกการทำงาน ทำให้ Definisse Hydrobooster มอบผลลัพธ์ที่เน้นไปที่ "คุณภาพผิว" โดยเฉพาะด้าน ความชุ่มชื้น ครับ

  • Outstanding Hydration และ "Glass Skin" / "Dewy Skin"

นี่คือจุดแข็งที่สุดครับ ผิวจะได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ ทำให้ดู อิ่มน้ำ เต่งตึง เปล่งปลั่ง และมี ความฉ่ำวาว หรือ "Dewy Skin" Effect ที่ดูสุขภาพดีครับ ริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดจากผิวขาดน้ำจะดูจางลงทันที 

  • Improvement in Skin Elasticity และ Suppleness

ผิวที่อิ่มน้ำจะมีความยืดหยุ่นดีขึ้น สัมผัสแล้วรู้สึก นุ่ม เนียน และยืดหยุ่นกว่าเดิมครับ

  • Reduction in Superficial Fine Lines

ด้วยการที่ผิวได้รับความชุ่มชื้นเต็มที่ ผิวจะดู เรียบเนียน ขึ้น ทำให้ ริ้วรอยตื้นๆ โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดจากผิวแห้ง ดูจางลงอย่างเห็นได้ชัดครับ

  • Improved Skin Radiance และ Smoothness

ผิวที่สุขภาพดี ได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอ จะดู กระจ่างใส ขึ้น เรียบเนียน ขึ้น และมี ออร่า อย่างเป็นธรรมชาติ

  • Slight Firming Effect

จากทั้งความอิ่มน้ำในชั้นผิว และการกระตุ้นคอลลาเจนในระดับหนึ่ง อาจรู้สึกได้ถึงความ กระชับขึ้นเล็กน้อย ครับ

การฉีดบำรุงบริเวณใต้ตาด้วย Definisse Hydrobooster: เพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใสรอบดวงตา

บริเวณใต้ตาเป็นอีกหนึ่งจุดที่มักเผชิญกับปัญหาผิวแห้ง ริ้วรอยเล็กๆ และความหมองคล้ำได้ง่าย เนื่องจากผิวบริเวณนี้บอบบางและสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น Definisse Hydrobooster สามารถนำมาใช้บำรุงผิวบริเวณใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติเด่นของ HA และ Glycerol ที่ช่วย:

  • เพิ่มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก: HA และ Glycerol จะช่วยดึงและกักเก็บน้ำไว้ในชั้นผิวใต้ตา ทำให้ผิวใต้ตาดูอิ่มฟู ไม่แห้งกร้าน และลดการปรากฏของเส้นริ้วเล็กๆ ที่เกิดจากการขาดน้ำ

  • ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ (Fine Lines): เมื่อผิวใต้ตาได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอและมีโครงสร้างที่ดีขึ้นจากคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้น ริ้วรอยตื้นๆ ที่เกิดจากการขาดน้ำและความยืดหยุ่นจะดูจางลง ทำให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น

  • เพิ่มความกระจ่างใสบริเวณรอบดวงตา: ผิวที่ชุ่มชื้นและสุขภาพดี จะมีการไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้น ทำให้ผิวใต้ตาดูสดใส ไม่หมองคล้ำ และลดรอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากผิวแห้งและโทรม ช่วยให้ดวงตาดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น

การฉีด Definisse Hydrobooster บริเวณใต้ตาจะช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวม ให้ผิวใต้ตาดูสดใส อิ่มฟู และอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

Definisse Hydrobooster เหมาะสำหรับใคร?

Definisse Hydrobooster เหมาะสำหรับใคร?
Definisse Hydrobooster เหมาะสำหรับใคร?

Definisse Hydrobooster เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาและต้องการผลลัพธ์เหล่านี้ครับ

  • แก้ไขปัญหา ผิวแห้งขาดน้ำอย่างรุนแรง หรือต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก

  • ลดเลือน ริ้วรอยตื้นๆ โดยเฉพาะที่เกิดจากผิวขาดน้ำ

  • ปรับปรุง คุณภาพผิวโดยรวม ให้ดูเรียบเนียน สดใส มีความยืดหยุ่น

  • ต้องการ ผิวที่ดูฉ่ำวาว (Dewy Skin) และมีออร่าอย่างเป็นธรรมชาติ

  • ผู้ที่ต้องการ บำรุงผิวใต้ตา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และเพิ่มความกระจ่างใส

  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไปและดูเป็นธรรมชาติ

บริเวณที่นิยมทำ Definisse Hydrobooster

Definisse Hydrobooster สามารถใช้ฉีดได้ในบริเวณที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับปรุงคุณภาพผิวครับ

  • ทั่วใบหน้า: เพื่อฟื้นฟูความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวโดยรวม และลดริ้วรอยตื้นๆ

  • ลำคอ: ช่วยให้ผิวบริเวณลำคอที่มักมีปัญหาความแห้งกร้านและริ้วรอย ดูอิ่มน้ำและเรียบเนียนขึ้น

  • หลังมือ: ช่วยให้ผิวบริเวณหลังมือที่ดูแห้งกร้านและมีริ้วรอย ดูอิ่มน้ำและเต่งตึงขึ้น

  • ใต้ตา: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิวบริเวณใต้ตา ลดใต้ตาดำ ดูกระจ่างใสขึ้น

โปรแกรม Definisse Hydrobooster ที่ Entrio Clinic ราชประสงค์

มักแนะนำให้ทำเป็นคอร์สการรักษา เพื่อผลลัพธ์ที่ต่อเนื่องและชัดเจนครับ

  • โปรแกรมมาตรฐาน: มักจะแนะนำให้ทำ หลายครั้ง (เช่น 2-3 ครั้ง หรือมากกว่า) ห่างกันเป็นระยะ ครับ เพื่อให้การเติมความชุ่มชื้นและการกระตุ้นคอลลาเจนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

  • การรักษาเพื่อคงผลลัพธ์: อาจพิจารณาการทำซ้ำเป็นระยะตามคำแนะนำของแพทย์

ข้อควรทราบเกี่ยวกับ Definisse Hydrobooster:

  • เน้นไปที่การให้ความชุ่มชื้นและงานผิว ไม่ได้เน้นการสร้าง Volume หรือการยกกระชับที่ชัดเจน

  • ความสามารถในการกระตุ้นคอลลาเจนมี แต่ไม่เข้มข้นเท่า Sculptra หรือ Profhilo

  • ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจในคุณสมบัติและเทคนิคการฉีดที่เหมาะสม

อยากกระตุ้นคอลลาเจน เลือกใช้ Sculptra หรือ ฟิลเลอร์งานผิวอย่าง Profhilo, Definisse Hydrobooster ดีกว่ากัน? คำตอบจากหมอโนโน่แบบเจาะลึก!


คำตอบสำหรับคำถามนี้ ไม่ใช่การฟันธงว่าตัวไหน "ดีกว่า" ตัวไหนในทุกกรณีครับ แต่เป็นการเลือกสิ่งที่ "เหมาะสมกว่า" สำหรับ ปัญหาหลัก และ เป้าหมาย ที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคลครับ! การที่ Biostimulator แต่ละชนิดช่วย "กระตุ้นคอลลาเจน" เหมือนกันนั้น เป็นเพียง "กลไก" พื้นฐานครับ แต่ผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้จากการกระตุ้นนั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เปรียบเสมือนการสร้าง "โรงงาน" (กระตุ้น Fibroblast) เหมือนกันครับ แต่โรงงานแต่ละแห่ง อาจเน้นผลิต "สินค้า" (คอลลาเจนชนิดต่างๆ, อีลาสติน, HA) ที่แตกต่างกันไป และนำไปใช้เพื่อ "วัตถุประสงค์" (สร้าง Volume, ฟื้นฟูคุณภาพผิว, ให้ความชุ่มชื้น) ที่ต่างกันครับ


มาเจาะลึกถึงการเปรียบเทียบ Sculptra กับ Profhilo และ Definisse Hydrobooster ในมิติของการ "กระตุ้นคอลลาเจน" และผลลัพธ์ที่ตามมากันครับ

Sculptra: ผู้เชี่ยวชาญด้านการ "สร้าง Volume" และ "เสริมโครงสร้างหลัก" ด้วยคอลลาเจน Type I!

เมื่อพูดถึงการกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อเป้าหมายในการ "สร้าง Volume ที่หายไป" และ "เสริมความแข็งแรงของโครงสร้างผิวหลัก" Sculptra คือผู้นำที่โดดเด่นอย่างแท้จริงครับ


กลไกการกระตุ้นคอลลาเจน

Sculptra โดดเด่นในการกระตุ้นให้เซลล์ Fibroblast สร้าง คอลลาเจน Type I ในปริมาณมากครับ


ทำไมต้อง Type I? 

คอลลาเจน Type I เปรียบเสมือน "เสาหลัก" และ "คานรับน้ำหนัก" ของอาคารผิวหนัง เป็นชนิดที่ให้ความแข็งแรง ความแน่น และ Volume ครับ การที่ Sculptra เน้นกระตุ้นคอลลาเจนชนิดนี้โดยเฉพาะ ทำให้มันมีประสิทธิภาพสูงในการฟื้นฟู Volume ที่หายไปจากความชรา หรือการสลายตัวของไขมันใต้ผิวหนัง และเสริมสร้างโครงสร้างผิวที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงขึ้นได้อย่างแท้จริงครับ


ผลลัพธ์ที่ได้จากการกระตุ้นคอลลาเจนโดย Sculptra:

  • การฟื้นฟู Volume ที่หายไปอย่างเป็นธรรมชาติ: คอลลาเจน Type I ที่สร้างขึ้นใหม่จะค่อยๆ ไปเติมเต็ม Volume ในบริเวณที่เนื้อยุบตัวลง ทำให้ใบหน้าดูเต็มขึ้น อิ่มเอิบขึ้น ดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติครับ ไม่ใช่การเติมแบบตรงๆ ด้วยสารภายนอก

  • เสริมความแข็งแรงและพยุงโครงสร้างผิว: คอลลาเจน Type I ที่แข็งแรง จะช่วยพยุงโครงสร้างผิวที่อ่อนแอจากความหย่อนคล้อย ทำให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น และช่วยยกกระชับผิวในบริเวณที่ฉีดได้เล็กน้อยครับ เปรียบเสมือนการสร้าง "ฐานราก" และ "โครงเหล็ก" ของอาคารให้แข็งแรงขึ้นครับ

  • ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน: การที่ Sculptra กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่อยู่ได้นาน ผลลัพธ์จึงอยู่ได้ยาวนานกว่า Biostimulator ที่เน้นงานผิว หรือ Filler ทั่วไปครับ โดยเฉลี่ย 1-2 ปี หรืออาจถึง 2 ปีขึ้นไปครับ


Sculptra เหมาะสำหรับ

ผู้ที่มีปัญหา Volume Loss ทั่วใบหน้าอย่างชัดเจน (เช่น แก้มตอบ ขมับตอบ ใต้ตาที่เป็นเบ้าลึก), ผู้ที่ต้องการ ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ให้แข็งแรงจากภายในในระยะยาว, ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดู เป็นธรรมชาติและยั่งยืนมากๆ, และผู้ที่สามารถรอผลลัพธ์ที่ค่อยๆ ปรากฏได้ครับ

Profhilo: ปลุกพลังแห่งคุณภาพผิว... กระตุ้นครบทั้ง คอลลาเจน อีลาสติน และ HA!

กลไกการกระตุ้นคอลลาเจนและสารอื่นๆ

Profhilo ไม่ได้เน้นแค่คอลลาเจน Type I ครับ แต่ HA Complex ที่เป็นสารสำคัญ จะเข้าไป กระตุ้น Fibroblast ให้สร้าง คอลลาเจน (ทั้ง Type I และ Type III), อีลาสติน และ Hyaluronic Acid (HA) ที่ร่างกายสร้างขึ้นเอง ครับ กลไกนี้เน้นไปที่การ "ปรับโครงสร้างผิวในชั้นหนังแท้" (Dermal Remodeling) ให้มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และชุ่มชื้นโดยรวมครับ


ผลลัพธ์ที่ได้จากการกระตุ้นโดย Profhilo

  • ฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวม: ทำให้ผิวดู อิ่มฟู ชุ่มชื้น (Hydro Effect) แน่นกระชับขึ้นเล็กน้อย (Lifting Effect) ยืดหยุ่น และ โกลว์ใส ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เน้นการเพิ่ม Volume ที่ชัดเจน แต่ทำให้ผิวโดยรวมดูมีสุขภาพดีขึ้นครับ เปรียบเสมือนการ "รีโนเวท" ภายในอาคาร ปรับปรุงพื้นผิว ผนัง ให้ดูเรียบเนียน ยืดหยุ่น และชุ่มชื้นครับ

  • แก้ไขปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ ริ้วรอยเล็กๆ: ผิวที่ได้รับการฟื้นฟูทั้งคอลลาเจน อีลาสติน และ HA จะดูอิ่มน้ำ เรียบเนียน ริ้วรอยเล็กๆ ดูตื้นลงครับ


Phofhilo เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ปัญหาหลักคือ คุณภาพผิว เช่น ผิวแห้งโทรม ไม่สดใส ผิวขาดความยืดหยุ่น มีริ้วรอยเล็กๆ ทั่วใบหน้า ผู้ที่ต้องการให้ผิวโดยรวมดูสุขภาพดีขึ้น และกระชับขึ้นเล็กน้อยครับ

Definisse Hydrobooster: เพิ่มความชุ่มชื้น... พร้อมกระตุ้นคอลลาเจน "เสริม"!

กลไกการกระตุ้นคอลลาเจนและสารอื่นๆ

Definisse Hydrobooster มีสารสำคัญคือ Non-Cross-linked HA + Glycerol กลไกหลักคือการ ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ครับ และมีคุณสมบัติ กระตุ้น Fibroblast ให้สร้างคอลลาเจนได้ในระดับหนึ่ง ครับ (น้อยกว่า Sculptra หรือ Profhilo)


ผลลัพธ์ที่ได้จากการกระตุ้นโดย Definisse Hydrobooster

  • ผิวอิ่มน้ำ โกลว์ใส เป็นหลัก: เน้นผลลัพธ์ด้านความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดู อิ่มน้ำ เต่งตึง ฉ่ำวาว อย่างชัดเจน

  • กระชับขึ้นเล็กน้อย ริ้วรอยตื้นๆ ดูจางลง: จากทั้งความอิ่มน้ำและการกระตุ้นคอลลาเจนเสริม


Definisse Hydrobooster เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ปัญหาหลักคือ ผิวแห้งขาดน้ำมากๆ, ผิวไม่สดใส, มีริ้วรอยตื้นๆ ที่เกิดจากผิวขาดน้ำ ผู้ที่ต้องการ Skinbooster คุณภาพสูงที่ให้มากกว่าแค่ความชุ่มชื้นครับ

คำตอบแบบเจาะลึกจากหมอโนโน่: เลือกตัวไหนดี? ขึ้นอยู่กับ "ปัญหา" ไม่ใช่แค่ "การกระตุ้นคอลลาเจน" อย่างเดียว!

คำตอบแบบเจาะลึกจากหมอโนโน่: เลือกตัวไหนดี? ขึ้นอยู่กับ "ปัญหา" ไม่ใช่แค่ "การกระตุ้นคอลลาเจน" อย่างเดียว!
คำตอบแบบเจาะลึกจากหมอโนโน่: เลือกตัวไหนดี? ขึ้นอยู่กับ "ปัญหา" ไม่ใช่แค่ "การกระตุ้นคอลลาเจน" อย่างเดียว!

ดังนั้น คำตอบสำหรับคำถามว่าควรเลือก Sculptra หรือ ฟิลเลอร์งานผิวอย่าง Profhilo/Definisse Hydrobooster เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ว่าตัวไหนกระตุ้นคอลลาเจน ครับ แต่อยู่ที่ว่า "คุณต้องการผลลัพธ์อะไร" และ "ปัญหาหลักของคุณคืออะไร" ครับ


ถ้าปัญหาหลักของคุณคือ "Volume Loss ที่ชัดเจน" 

(เช่น แก้มตอบ ขมับตอบ) และต้องการฟื้นฟู "โครงสร้างหลัก" ของผิวให้กลับมาแข็งแรง มี Volume ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้ ยาวนานมากๆ: Sculptra คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดครับ เพราะเน้นการสร้างคอลลาเจน Type I ซึ่งเป็นโครงสร้างหลัก


ถ้าปัญหาหลักของคุณคือ "คุณภาพผิว" 

(เช่น ผิวแห้ง ไม่สดใส ขาดความยืดหยุ่น ริ้วรอยเล็กๆ) ต้องการให้ผิวโดยรวมดู "อิ่มฟู ชุ่มชื้น แน่นกระชับ โกลว์ใส" ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เน้นงานผิวที่ดีขึ้น: Profhilo หรือ Definisse Hydrobooster อาจเป็นตัวเลือกที่ตรงจุดกว่าครับ

  • Profhilo: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวมทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ต้องการความอิ่มฟู แน่นกระชับ โกลว์ใส จากภายใน

  • Definisse Hydrobooster: เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นเรื่องความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ผิวแห้งขาดน้ำมากๆ ต้องการให้ผิวดูอิ่มน้ำ โกลว์ใส พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนระดับหนึ่งเป็นของแถม

เปรียบเทียบแบบชัดๆ ในมุมของการกระตุ้นคอลลาเจน และผลลัพธ์ที่ตามมา:

แม้ Profhilo และ Definisse Hydrobooster จะจัดอยู่ในกลุ่ม "ฟิลเลอร์งานผิว" และมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นพร้อมกระตุ้นคอลลาเจน แต่ทั้งสองผลิตภัณฑ์ก็มีจุดเด่นและบทบาทที่แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งผมจะสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ครับ

คุณสมบัติ/ข้อแตกต่าง

Profhilo (โปรฟิโล)

Definisse Hydrobooster (เดฟินิส ไฮโดรบูสเตอร์)

สารสำคัญ

HA Complex บริสุทธิ์สูง 100% (High-molecular-weight และ Low-molecular-weight HA เชื่อมกันด้วยความร้อน)

Non-Cross-linked HA + Glycerol

กลไกหลัก

Dermal Remodeling ปรับโครงสร้างผิวในชั้นหนังแท้ใหม่ทั้งหมด โดยเน้นการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน (Type I, III), อีลาสติน และ HA ที่ร่างกายสร้างเอง

Intense Hydration ให้ความชุ่มชื้นล้ำลึกและยาวนาน พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนในระดับหนึ่ง

คุณสมบัติการกระตุ้นคอลลาเจน

โดดเด่นและเข้มข้น กระตุ้น Fibroblast ได้อย่างมีประสิทธิภาพในวงกว้าง

กระตุ้นเสริม เน้นการให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก การกระตุ้นคอลลาเจนอยู่ในระดับหนึ่ง

ผลลัพธ์ที่เน้น

คุณภาพผิวโดยรวม (Skin Quality) ผิวอิ่มฟู แน่นกระชับ ยืดหยุ่น โกลว์ใส มี "Lifting Effect" เล็กน้อย

ความชุ่มชื้นและออร่า (Hydration & Radiance) ผิวฉ่ำน้ำ เปล่งปลั่ง ลดริ้วรอยตื้นๆ ที่เกิดจากผิวแห้ง อาจรู้สึกกระชับขึ้นเล็กน้อย

เทคนิคการฉีด

BAP (Bio Aesthetic Point) Technique 5 จุดต่อครึ่งหน้า (10 จุดทั่วใบหน้า) เน้นการกระจายตัวทั่วพื้นที่

ฉีดแบบกระจายทั่วบริเวณที่ต้องการ (Multiple Micro-injections) หรือในบางจุดเฉพาะ เช่น ใต้ตา

บริเวณที่แนะนำ

ทั่วใบหน้า, ลำคอ, หลังมือ, ท้องแขน

ทั่วใบหน้า, ใต้ตา, คอ, มือ

จำนวนครั้ง (เริ่มต้น)

2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน

2-3 ครั้ง ห่างกัน 3-4 สัปดาห์

จุดเด่นเฉพาะ

"Glass Skin" effect, ปรับโครงสร้างผิวจากภายใน, ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติมาก, อยู่ได้นานกว่า

เน้นความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ, ลดริ้วรอยตื้นๆ ได้ดี, เหมาะกับผู้ที่ต้องการผิวอิ่มน้ำเร่งด่วน, สามารถฉีดใต้ตาได้อย่างปลอดภัย 

ไม่ใช่สิ่งเดียวกันกับ Filler ทั่วไป และการเลือกต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ!

การตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ Biostimulator ชนิดใด หรือควรทำ Combination กับ Program อื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้น ต้องอาศัย การประเมินสภาพผิว ปัญหาที่แท้จริง ความคาดหวัง และ Lifestyle ของคุณโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ที่เข้าใจใน Biostimulator อย่างลึกซึ้งเท่านั้นครับ! ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ เรามี Biostimulator ที่หลากหลาย พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียด

ทำไมต้องเลือก Program Biostimulator ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์? "หมอโนโน่ท้าพิสูจน์" คุณภาพและผลลัพธ์!

ที่ Entrio Clinic ราชประสงค์ เรามีความตั้งใจจริงที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ทุกท่าน ด้วยการคัดสรร Biostimulator ที่ได้มาตรฐาน มีความหลากหลาย และการดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ที่เข้าใจในความแตกต่างและกลไกการทำงานของแต่ละตัวเป็นอย่างดีครับ เราพร้อมที่จะประเมินปัญหาของคุณอย่างละเอียด และออกแบบ แผนการรักษาเฉพาะบุคคล (Personalized Treatment Plan) ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ Sculptra, Profhilo, Definisse Hydrobooster หรือการทำ Combination Therapy เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ ผิวเด็กอ่อนเยาว์ ที่ดูเป็นธรรมชาติและตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุดครับ


"หมอโนโน่ท้าพิสูจน์" คุณภาพและผลลัพธ์ ด้วยตัวคุณเอง!

ถ้าคุณพร้อมที่จะลงทุนเพื่อผิวที่ดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดีอย่างยั่งยืน ด้วย Program Biostimulator ที่หลากหลายและได้มาตรฐาน พร้อมการดูแลแบบเฉพาะบุคคลจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ เรายินดีต้อนรับครับ! การปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์คือขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดครับ

สรุปจากใจหมอโนโน่ Program Biostimulator สารกระตุ้นคอลลาเจน... โอกาสสู่ผิวเด็กอ่อนเยาว์ ที่ Entrio Clinic ราชประสงค์

สรุปจากใจหมอโนโน่ Program Biostimulator สารกระตุ้นคอลลาเจน... โอกาสสู่ผิวเด็กอ่อนเยาว์ ที่ Entrio Clinic ราชประสงค์
สรุปจากใจหมอโนโน่ Program Biostimulator สารกระตุ้นคอลลาเจน... โอกาสสู่ผิวเด็กอ่อนเยาว์ ที่ Entrio Clinic ราชประสงค์

Biostimulator ถือเป็นนวัตกรรมที่น่าทึ่ง ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินตามธรรมชาติ ฟื้นฟูผิว จากภายใน สู่ผลลัพธ์ ผิวเด็กอ่อนเยาว์ ที่ยั่งยืนครับ การเลือกใช้ Biostimulator ที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัญหาและเป้าหมายของคุณเป็นสำคัญ ทั้ง Sculptra ที่เน้น Volume/โครงสร้าง และ Profhilo/Definisse Hydrobooster ที่เน้นคุณภาพผิว/ความชุ่มชื้น ต่างก็มีจุดเด่นและบทบาทที่แตกต่างกัน


มาคุยกันที่ Entrio Clinic ราชประสงค์ เพื่อให้หมอได้ประเมินปัญหาผิวของคุณอย่างละเอียด และออกแบบ Program Biostimulator หรือ Combination Therapy ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณครับ เพื่อให้คุณได้ผิวที่สวย สุขภาพดี และอ่อนเยาว์อย่างแท้จริงครับ


Entrio Clinic - Refined Aesthetic Experience 

“เราเชื่อว่า ความสวยที่แท้จริง มาจากสุขภาพผิวที่ดี และความเข้าใจในวิทยาศาสตร์” 

📍 ที่ตั้ง: https://maps.app.goo.gl/X9WpN51pnK5otKip8

ชั้น 4 ตึกเอราวัณ แบงค็อก (Erawan Bangkok), สี่แยกราชประสงค์ (หลังศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ) กรุงเทพมหานคร 

💬 Line: @‌entrioclinic หรือคลิก bit.ly/EntrioLine

📞 โทร: 097-154-2222

🌐 Website: entrioclinic.com

📷 Instagram: entrioclinic หรือคลิ๊ก instagram.com/entrioclinic/

 
 
 

Comments


© 2024 เอ็นทริโอ คลินิก. สงวนลิขสิทธิ์

bottom of page