หมอโนโน่ พาทำความรู้จักกับผิวหน้า 5 ประเภท: ตัวคุณเองมี สภาพผิว แบบไหนกันแน่? ต้องดูแลอย่างไรถึงจะเข้ากับผิวคุณ – โดย Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์
- SPARK IDEA Digital Marketing
- 1 วันที่ผ่านมา
- ยาว 7 นาที

สวัสดีครับ! ผม นายแพทย์ ชนภัทร ชินเวชกิจวานิชย์ หรือ หมอโนโน่ ว.60686 แพทย์เจ้าของ คลินิกเวชกรรมความงาม Entrio Clinic ใจกลาง ย่านราชประสงค์ ครับ!
ผมที่ได้ดูแลคนไข้จำนวนมากที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ แห่งนี้ ผมได้พบเจอผู้คนมากมายที่ลงทุนกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวราคาแพง ทดลองทรีตเมนต์หลากหลายรูปแบบ หรือแม้แต่เดินทางไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาผิวที่เผชิญอยู่ได้อย่างยั่งยืน หรือบางครั้งกลับพบว่าปัญหาผิวดูจะแย่ลงเสียด้วยซ้ำ
คุณเคยสงสัยไหมครับว่า "ทำไมคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์เหมือนกัน บางคนผิวดีขึ้น แต่อีกคนกลับแพ้หรือสิวขึ้น?" คำตอบของคำถามนี้ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิดครับ หัวใจสำคัญคือ "การไม่รู้จักสภาพผิวของตัวเองอย่างแท้จริง"
ลองนึกภาพการเดินทางครับ หากคุณไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นของคุณอยู่ที่ไหน คุณจะไปถึงจุดหมายได้อย่างไร? เช่นเดียวกัน การดูแลผิวก็เป็นเรื่องของการ "เริ่มต้นให้ถูกที่" การรู้ว่า สภาพผิว ของคุณเป็นแบบไหน คือ "แผนที่" ที่จะนำทางคุณไปสู่การเลือกผลิตภัณฑ์ การจัดรูทีน การดูแลผิวหน้า หรือแม้แต่การตัดสินใจใช้ เทคโนโลยีความงาม ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผิวของคุณ
ผมมักจะเปรียบเทียบ สภาพผิว เหมือนกับ "บุคลิกภาพ" ของผิวครับ แต่ละบุคลิกก็มีความต้องการ การตอบสนอง และข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป การดูแลผิวแบบ "เหมาโหล" หรือตามกระแสโดยไม่คำนึงถึง สภาพผิว ที่แท้จริง จึงมักลงเอยด้วยความผิดหวัง
วันนี้ หมอโนโน่ จึงอยากชวนทุกท่านมา "แกะรอย" และ "ทำความรู้จัก" กับ สภาพผิว 5 ประเภทหลักอย่างละเอียดครับ เราจะมาเรียนรู้วิธีสังเกตลักษณะเฉพาะของผิวแต่ละประเภท พร้อมทั้งทำความเข้าใจว่าผิวของคุณ "กำลังบอกอะไร" เพื่อเป็นก้าวแรกและสำคัญที่สุดในการเริ่มต้น การดูแลผิวหน้า ที่ชาญฉลาดและตรงจุด ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ แห่งนี้ ผมพร้อมที่จะเป็นผู้ช่วยให้คุณค้นพบ สภาพผิว ของตัวเอง และออกแบบแผนการดูแลที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณครับ!
'ผิว' ของคุณคืออะไร? ทำความเข้าใจพื้นฐานของผิวหนัง – รากฐานสู่ 'ผิวสุขภาพดี' โดย 'หมอโนโน่' แห่ง Entrio Clinic
ผมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรู้จัก สภาพผิว ของตัวเอง ซึ่งเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการดูแลผิวอย่างชาญฉลาด แต่ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกถึงลักษณะเฉพาะของ สภาพผิว แต่ละประเภท ผมอยากชวนทุกท่านมาทำความเข้าใจ "พื้นฐาน" ของผิวหนังของเราเสียก่อนครับ
ลองนึกภาพว่าผิวของเราเปรียบเสมือน "เสื้อเกราะ" หรือ "ปราการป้องกัน" ที่ห่อหุ้มร่างกายทั้งหมดของเราไว้ครับ เป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย และมีหน้าที่มากกว่าแค่การเป็นส่วนที่อยู่ภายนอกให้เรามองเห็น ผิวหนังเป็นเสมือน "มัลติฟังก์ชัน" ที่ทำหน้าที่ปกป้องเราจากโลกภายนอก ควบคุมอุณหภูมิ รับความรู้สึก และยังเป็น "กระจกสะท้อน" สุขภาพภายในของเราด้วย
ผมมักจะอธิบายให้คนไข้ฟังเสมอว่า การจะแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดและยั่งยืน เราต้องเข้าใจ "รากฐาน" ของมันเสียก่อนครับ เมื่อเราเข้าใจว่าผิวของเราทำงานอย่างไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง เราก็จะสามารถดูแลผิวได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น และเลือกผลิตภัณฑ์หรือทรีตเมนต์ที่เหมาะสมกับกลไกของผิวอย่างแท้จริงครับ
วันนี้ผมจะพาคุณไปสำรวจโครงสร้างและหน้าที่สำคัญของผิวหนังในมุมมองที่เข้าใจง่ายๆ กันครับ!
โครงสร้างของผิวหนัง: 3 ชั้นมหัศจรรย์
ผิวหนังของเราประกอบด้วย 3 ชั้นหลักๆ ที่ทำงานประสานกันอย่างซับซ้อนครับ

1. หนังกำพร้า (Epidermis): 'ด่านหน้าแห่งการปกป้อง'
คุณสมบัติ
เป็นชั้นนอกสุดของผิวหนังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เป็นชั้นที่บางที่สุด แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเป็น "ปราการป้องกัน"
เซลล์หลัก
ประกอบด้วยเซลล์ผิวหนังที่เรียกว่า Keratinocytes ที่มีการแบ่งตัวและเคลื่อนที่ขึ้นมาสู่ผิวด้านบนอย่างต่อเนื่อง และตายไปในที่สุดกลายเป็นเซลล์ผิวชั้นขี้ไคล (Stratum Corneum) รวมถึง Melanocytes (เซลล์สร้างเม็ดสี) และเซลล์ภูมิคุ้มกันบางชนิด
หน้าที่สำคัญ
ปราการผิว (Skin Barrier)
ชั้นบนสุดของหนังกำพร้าที่เรียกว่า Stratum Corneum ซึ่งประกอบด้วยเซลล์ผิวที่ตายแล้วและไขมันคล้ายซีเมนต์ที่ยึดเกาะกัน ทำหน้าที่เป็น "กำแพงป้องกัน" ที่แข็งแกร่ง ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว (Transepidermal Water Loss - TEWL) และป้องกันสารก่อภูมิแพ้ สารเคมี แบคทีเรีย ไวรัส และสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกเข้าสู่ร่างกาย ปราการผิว ที่แข็งแรงคือหัวใจของ ผิวสุขภาพดี และเป็นตัวกำหนดความไวของผิวต่อสิ่งกระตุ้น
การสร้างเม็ดสี (Melanin Production)
เซลล์ Melanocytes สร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ซึ่งมีหน้าที่ดูดซับรังสียูวีจากแสงแดด เพื่อปกป้องเซลล์ผิวที่อยู่ลึกลงไป เม็ดสีเมลานินยังเป็นตัวกำหนดสีผิวของเรา หากการสร้างเม็ดสีผิดปกติ อาจนำไปสู่ปัญหา รอยดำจากสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ
การผลัดเซลล์ผิว (Cell Turnover)
เซลล์ผิวมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา โดยเซลล์ใหม่จะดันเซลล์เก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 28 วันในผู้ใหญ่ปกติ หากกระบวนการนี้ผิดปกติ อาจนำไปสู่ สิวอุดตัน หรือผิวหมองคล้ำ
2. หนังแท้ (Dermis): 'โครงสร้างหลักแห่งความอ่อนเยาว์'
คุณสมบัติ
เป็นชั้นที่อยู่ใต้หนังกำพร้า มีความหนากว่า และเป็นที่ตั้งของโครงสร้างสำคัญที่ทำให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น และเต่งตึง
ส่วนประกอบหลัก
คอลลาเจน (Collagen)
เป็นโปรตีนโครงสร้างหลักที่ให้ความแข็งแรงและความแน่นกระชับแก่ผิว คิดเป็นประมาณ 70-80% ของหนังแท้
อีลาสติน (Elastin)
เป็นโปรตีนที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว ทำให้ผิวสามารถยืดหยุ่นและกลับคืนสู่สภาพเดิมได้
กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid)
เป็นสารธรรมชาติในผิวที่ทำหน้าที่ดึงดูดและกักเก็บน้ำได้ในปริมาณมาก ทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู และดูอ่อนเยาว์
เส้นเลือด (Blood Vessels)
นำสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงผิว และกำจัดของเสียออกไป
เส้นประสาท (Nerves)
ทำหน้าที่รับความรู้สึกต่างๆ เช่น การสัมผัส ความร้อน ความเย็น และความเจ็บปวด
ต่อมไขมัน (Sebaceous Glands)
ผลิตน้ำมัน (Sebum) ซึ่งจะถูกหลั่งออกมาทาง รูขุมขน เพื่อเคลือบและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
ต่อมเหงื่อ (Sweat Glands)
ผลิตเหงื่อเพื่อช่วยระบายความร้อนและควบคุมอุณหภูมิร่างกาย
รากขน (Hair Follicles)
เป็นที่อยู่ของเส้นขน และยังเป็นโครงสร้างที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเกิด ปัญหาสิว
หน้าที่สำคัญ
ความแข็งแรงและความยืดหยุ่น
คอลลาเจนและอีลาสตินเป็นตัวช่วยให้ผิวเต่งตึง ยืดหยุ่น และลดการเกิดริ้วรอย
การหล่อเลี้ยงผิว
เส้นเลือดในชั้นนี้เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญสำหรับเซลล์ผิว
การรับความรู้สึก
ทำให้เรารับรู้ถึงสิ่งต่างๆ ที่มาสัมผัสผิว
3. ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Tissue/Hypodermis): 'ฉนวนกันกระแทกและแหล่งพลังงาน'
คุณสมบัติ
เป็นชั้นที่อยู่ลึกที่สุดของผิวหนัง ประกอบด้วยเซลล์ไขมันและหลอดเลือด
หน้าที่สำคัญ
ฉนวนกันความร้อน/เย็น
ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
กันกระแทก
ทำหน้าที่เป็นกันชน ป้องกันอวัยวะภายในจากแรงกระแทก
แหล่งพลังงานสำรอง
เก็บสะสมพลังงานในรูปของไขมัน
เชื่อมต่อผิวหนังกับโครงสร้างภายใน
กล้ามเนื้อและกระดูก
ส่วนประกอบสำคัญที่กำหนด 'สภาพผิว' ของคุณ: ต่อมไขมันและรูขุมขน

แม้ผิวหนังจะมีหลายชั้นและหลายส่วนประกอบ แต่ในบริบทของ สภาพผิว และ ปัญหาสิว ผม หมอโนโน่ อยากให้คุณให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับสองส่วนนี้ครับ
1. ต่อมไขมัน (Sebaceous Gland): 'โรงงานผลิตน้ำมันของผิว'
หน้าที่
ผลิตน้ำมัน (Sebum) ออกมาเคลือบผิว Sebum มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผิวในหลายด้าน
ให้ความชุ่มชื้น
เคลือบผิวป้องกันการระเหยของน้ำ
ปราการป้องกัน
ช่วยเสริมสร้าง ปราการผิว และป้องกันแบคทีเรียหรือเชื้อโรคบางชนิด
สารต้านอนุมูลอิสระ
มีวิตามินอีที่ช่วยปกป้องผิว
ผลกระทบต่อสภาพผิว
ผิวมัน
ต่อมไขมันทำงานมากเกินไป ผลิต Sebum มาก
ผิวแห้ง
ต่อมไขมันทำงานน้อยเกินไป ผลิต Sebum น้อย
ผิวธรรมดา/ผิวผสม
ต่อมไขมันทำงานสมดุล หรือทำงานมากเป็นบางบริเวณ
เมื่อเกิดปัญหา
หากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป บวกกับการอุดตันของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จะเป็นจุดเริ่มต้นของ ปัญหาสิว ครับ
2. รูขุมขน (Pores): 'ช่องทางของผิว'
หน้าที่
เป็นช่องทางที่น้ำมัน (Sebum) และเส้นขนออกมาสู่ผิวหนัง
ผลกระทบต่อสภาพผิว
ผิวมัน
รูขุมขน มักมีขนาดใหญ่และมองเห็นชัดเจนขึ้น เพื่อระบายน้ำมันส่วนเกิน
ผิวแห้ง
รูขุมขน มักมีขนาดเล็กมาก แทบมองไม่เห็น
เมื่อเกิดปัญหา
หาก รูขุมขน เกิดการอุดตันจากไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จะกลายเป็น สิวอุดตัน ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็น สิวอักเสบ ได้
ปัจจัยภายในและภายนอกที่ส่งผลต่อ 'สภาพผิว'
การทำความเข้าใจโครงสร้างและหน้าที่ของผิวหนัง ทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่า สภาพผิว ของเรานั้นไม่ได้คงที่ตายตัว แต่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลากหลาย:
พันธุกรรม
มีส่วนกำหนดโครงสร้างพื้นฐานของผิว และแนวโน้มที่จะมี สภาพผิว แบบใด
ฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน ส่งผลอย่างมากต่อการผลิตน้ำมันของต่อมไขมัน และเป็นสาเหตุสำคัญของ ปัญหาสิว ฮอร์โมนยังส่งผลต่อการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินด้วย
อายุ
เมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของต่อมไขมันจะลดลง การสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินก็ลดลง ทำให้ผิวแห้งขึ้น มีริ้วรอย และสูญเสียความยืดหยุ่น
สภาพแวดล้อม
แสงแดด (UV Radiation)
เป็นตัวการสำคัญที่ทำลายคอลลาเจน อีลาสติน และกระตุ้นการสร้างเม็ดสี ทำให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และผิวแก่ก่อนวัย
มลภาวะ (Pollution)
อนุภาคมลพิษขนาดเล็กสามารถทำร้าย ปราการผิว และกระตุ้นการอักเสบได้
สภาพอากาศ
อากาศแห้งจัด หรือเย็นจัด ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ในขณะที่อากาศร้อนชื้นอาจกระตุ้นการผลิตน้ำมัน
พฤติกรรมการดูแลผิว
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับ สภาพผิว เป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากเลือกผิดอาจทำให้ผิวระคายเคือง แห้ง หรือมันกว่าเดิม
การทำความสะอาด
การล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง อาจทำลาย ปราการผิว
ไลฟ์สไตล์และสุขภาพ
อาหาร
อาหารบางชนิดอาจส่งผลต่อการเกิด ปัญหาสิว หรือการอักเสบของผิว
ความเครียด
กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ส่งผลต่อผิว
การนอนหลับ
การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลต่อการฟื้นฟูของผิว
การดื่มน้ำ
การดื่มน้ำเพียงพอช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน
ทำความเข้าใจผิวของคุณ...กุญแจสู่ความงามที่ยั่งยืน

การทำความเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้ ทำให้เราเห็นแล้วใช่ไหมครับว่า "ผิว" ของเรานั้นไม่ใช่แค่สิ่งที่ห่อหุ้มร่างกาย แต่เป็นอวัยวะที่มีชีวิตที่ทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน และมีความซับซ้อนอย่างยิ่ง การรู้ว่าส่วนไหนของผิวหนังที่ทำงานผิดปกติ หรือได้รับผลกระทบจากปัจจัยใด จะช่วยให้เราสามารถเลือกวิธีการดูแลที่ "ตรงจุด" อย่างแท้จริงครับ
Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ ผม หมอโนโน่ ไม่ได้แค่แนะนำผลิตภัณฑ์หรือทรีตเมนต์ตามกระแส แต่เราจะเริ่มต้นจากการพาคุณทำความรู้จักผิวของคุณอย่างละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณเข้าใจว่า "ทำไม" ผิวของคุณถึงมี สภาพผิว แบบนี้ และ "ทำไม" ถึงเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้น จากนั้นเราจึงจะร่วมกัน ออกแบบแผนการดูแลผิวหน้า ที่เป็นวิทยาศาสตร์ และเหมาะสมกับ "ตัวคุณ" ที่สุดครับ
การลงทุนกับการทำความเข้าใจผิวของคุณ คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในการเดินทางสู่ ผิวสุขภาพดี และ ผิวสวย ที่ยั่งยืนครับ! มาปรึกษาผม หมอโนโน่ ที่ Entrio Clinic วันนี้ เพื่อไขความลับของผิวคุณ และเริ่มต้นดูแลผิวอย่างผู้เชี่ยวชาญครับ!
ไขความลับ สภาพผิว 5 ประเภทหลัก: สังเกตอย่างไร? อะไรคือความท้าทาย? – การวิเคราะห์ผิวด้วยตัวคุณเอง โดย 'หมอโนโน่' แห่ง Entrio Clinic

หลังจากที่เราได้เรียนรู้โครงสร้างพื้นฐานและหน้าที่สำคัญของผิวหนังกันไปแล้วใน Part ที่แล้ว วันนี้เราจะเข้าสู่ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำความเข้าใจผิวของคุณ นั่นคือ "การจำแนกสภาพผิว 5 ประเภทหลัก" ครับ!
ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า ผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม หรือ ผิวแพ้ง่าย มาบ้าง แต่บางครั้งก็ยังไม่แน่ใจว่าผิวของตัวเองจัดอยู่ในประเภทไหนกันแน่ หรือบางทีอาจจะสับสนระหว่างประเภทผิวที่คล้ายกัน การจำแนก สภาพผิว ที่แม่นยำเป็นจุดเริ่มต้นของ การดูแลผิวหน้า ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญอย่างมากเมื่อคนไข้มาปรึกษาที่ คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ ของเราครับ
ผมจะแนะนำ "วิธีสังเกตง่ายๆ ด้วยตัวเอง" ที่คุณสามารถนำไปลองทำได้ที่บ้าน เพื่อให้คุณได้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ สภาพผิว ของคุณก่อนที่จะมาปรึกษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ครับ!
วิธีการสังเกตสภาพผิวด้วย "วิธีล้างหน้าทิ้งไว้" (The Bare-Faced Method) ที่ 'หมอโนโน่' แนะนำ

นี่คือวิธีที่ค่อนข้างง่ายและให้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือในการจำแนก สภาพผิว เบื้องต้นครับ
ทำความสะอาดผิวหน้า
ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนที่คุณใช้เป็นประจำ พยายามหลีกเลี่ยงคลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมรุนแรงหรือทำให้ผิวแห้งตึง
ซับหน้าให้แห้ง
ใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดและนุ่มซับหน้าเบาๆ ให้แห้งสนิท
งดทาสกินแคร์
สำคัญมาก! อย่าทาสกินแคร์ใดๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นโทนเนอร์ เซรั่ม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือครีมบำรุงต่างๆ
รอสังเกตการณ์
ปล่อยผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ในช่วงเวลานี้ พยายามอย่าสัมผัสใบหน้า
ประเมินผิว
หลังจากผ่านไป 30-60 นาที ลองยืนหน้ากระจกในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ แล้วสังเกตความรู้สึกและลักษณะของผิวหน้าของคุณอย่างละเอียดในแต่ละบริเวณ
มาดูกันครับว่าผิวของคุณมีลักษณะใกล้เคียงกับประเภทไหนที่สุดใน 5 ประเภทหลักนี้
1. ผิวธรรมดา (Normal Skin): 'ผิวที่ฟ้าประทานให้'

สิ่งที่ผิวบอกคุณ
ถ้าคุณสังเกตผิวตัวเองแล้วพบว่ามีลักษณะเหล่านี้ คุณคือผู้โชคดีครับ! ผิวธรรมดา คือ สภาพผิว ที่มีความสมดุลที่สุด มีการผลิตน้ำมันและน้ำหล่อเลี้ยงผิวในปริมาณที่พอเหมาะ ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกกวนใจ
ลักษณะที่คุณจะสังเกตเห็น (หลัง 30-60 นาที)
ความมัน
ผิวจะรู้สึกสบาย ไม่มีความมันวาวมากเกินไป หรือรู้สึกแห้งตึง ผิวดูแมตต์แต่ก็ไม่แห้งผาก
รูขุมขน
มีขนาดเล็กมาก แทบมองไม่เห็นหรือเห็นได้น้อยมาก รูขุมขน ดูละเอียด
ความรู้สึก
ผิวรู้สึกเนียนนุ่ม สัมผัสแล้วลื่นมือ มีความยืดหยุ่นดี รู้สึกสดชื่นและสบายผิวอยู่เสมอ ไม่มีความคัน แสบ หรือตึง
โทนสีผิว
สีผิวดูสม่ำเสมอ ผิวดูมีออร่า และสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
ปัญหาผิว
แทบไม่มีปัญหาเรื่อง ปัญหาสิว รอยสิว จุดด่างดำ ผื่นแพ้ หรืออาการระคายเคืองให้เห็นเลย
ความท้าทายของผิวธรรมดา
แม้จะเป็นผิวที่ไร้ที่ติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องดูแลนะครับ! ผิวธรรมดาก็ยังคงต้องการการดูแลที่เหมาะสมเพื่อคงความสมดุลและความอ่อนเยาว์ไว้ หากละเลย อาจทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หรืออาจเปลี่ยนเป็น ผิวแห้ง หรือ ผิวมัน ได้ตามสภาพแวดล้อมและอายุ
การดูแลจากมุมมอง 'หมอโนโน่'
เน้นการ "คงสมดุล" และ "ปกป้อง" ผิวจากปัจจัยภายนอกเพื่อรักษาความสมบูรณ์แบบนี้ไว้ให้ยาวนานที่สุด
ทำความสะอาด
ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยน มีค่า pH Balance ใกล้เคียงผิว (ประมาณ 5.5) เพื่อไม่รบกวนสมดุลธรรมชาติของผิว
บำรุง
เลือก มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เนื้อบางเบาถึงปานกลาง ที่ให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่หนักผิว เพื่อคงความชุ่มชื้นและเสริม ปราการผิว ให้แข็งแรง อาจเพิ่มเซรั่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (เช่น วิตามินซี) เพื่อปกป้องผิว
ปกป้อง
ครีมกันแดด ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีคุณสมบัติ Broad Spectrum (ป้องกันทั้ง UVA และ UVB) เป็นประจำทุกวัน นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันริ้วรอย จุดด่างดำ และรักษาความอ่อนเยาว์ของผิว
เทคโนโลยีความงามที่ Entrio Clinic เพื่อผิวธรรมดา
แม้ผิวจะดีอยู่แล้ว แต่การดูแลเสริมเพื่อคงความอ่อนเยาว์และกระจ่างใสก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ ของเรา เรามีบริการเช่น IV Drip วิตามินผิว ที่ช่วยบำรุงผิวจากภายใน ให้ ผิวมีออร่า และเสริม ภูมิคุ้มกัน หรือ Lumecca ที่ช่วยเรื่อง ผิวกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดรอยแดงเล็กๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้แม้ในผิวธรรมดา
2. ผิวมัน (Oily Skin): 'ความท้าทายของความมันวาวและปัญหาสิว'

สิ่งที่ผิวบอกคุณ
หากผิวของคุณมีลักษณะดังต่อไปนี้ คุณมีแนวโน้มที่จะมี ผิวมัน ครับ ผิวมัน เกิดจากการที่ต่อมไขมันทำงานหนักเป็นพิเศษ มีการผลิตน้ำมัน (Sebum) มากเกินไป ทำให้ผิวดูมันเงา และมีแนวโน้มเกิดการอุดตันได้ง่าย
ลักษณะที่คุณจะสังเกตเห็น (หลัง 30-60 นาที)
ความมัน
ผิวหน้าจะมันวาวอย่างเห็นได้ชัดตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะบริเวณ T-zone (หน้าผาก จมูก คาง) บางคนอาจมันเยิ้มทั่วทั้งใบหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังล้างหน้า คุณอาจเห็นน้ำมันเคลือบอยู่บนผิว หรือรู้สึกเหนอะหนะเมื่อสัมผัส
รูขุมขน
มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณแก้ม จมูก และหน้าผาก เนื่องจาก รูขุมขน ต้องขยายตัวเพื่อระบายน้ำมันส่วนเกินที่ผลิตออกมา
ความรู้สึก
รู้สึกเหนอะหนะ หนักหน้า เมคอัพไม่ติดทน หรือหลุดง่ายระหว่างวัน อาจมีความรู้สึกสกปรกง่าย
ปัญหาผิว
เป็น สภาพผิว ที่มีแนวโน้มเกิด ปัญหาสิว ได้ง่ายที่สุด ทั้ง สิวอุดตัน (สิวหัวดำ, สิวหัวขาว), สิวอักเสบ (ตุ่มแดง, สิวหัวหนอง) รวมถึงปัญหา รูขุมขน กว้างอย่างเห็นได้ชัด
ความท้าทายของผิวมัน
การควบคุมความมันและการป้องกันสิว โดยไม่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองจนเกินไป ซึ่งอาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้นเป็นการตอบสนอง และทำให้สิวแย่ลงได้
การดูแลจากมุมมอง 'หมอโนโน่'
เน้นการ "ควบคุมความมัน" "ลดการอุดตัน" และ "ลดการอักเสบ" อย่างอ่อนโยนและรักษาสมดุลผิว
ทำความสะอาด
ใช้คลีนเซอร์เนื้อเจลหรือโฟมที่อ่อนโยน Oil-free และ Non-comedogenic ที่มีฟองน้อย หรือไม่มีฟอง ควรมีส่วนผสมของ Salicylic Acid (BHA) ในความเข้มข้นที่เหมาะสม (0.5-2%) เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวและละลายไขมันใน รูขุมขน ลดการเกิด สิวอุดตัน ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
ทรีตเมนต์
พิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมันและลดสิว เช่น Niacinamide (ช่วยลดการอักเสบ ควบคุมความมัน), Benzoyl Peroxide (สำหรับสิวอักเสบ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.acnes), หรือ Retinoids (เช่น Adapalene, Tretinoin ภายใต้การแนะนำของแพทย์ หรือ Retinol ทั่วไปที่ช่วยลดการอุดตันและปรับสมดุลการผลัดเซลล์ผิว)
บำรุง
เลือก มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เนื้อเจลหรือโลชั่นที่บางเบา ซึมซาบเร็ว Oil-free และ Non-comedogenic เพื่อให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมัน การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ ผิวมัน เพื่อรักษาสมดุลผิวและป้องกันการผลิตน้ำมันมากเกินไปจากการที่ผิวขาดความชุ่มชื้น
ปกป้อง
ครีมกันแดด สูตร Oil-free, Non-comedogenic, เนื้อแมตต์ หรือเนื้อฟลูอิดที่ซึมเร็ว ไม่ทิ้งคราบขาวหรือความเหนอะหนะ
เทคโนโลยีความงามที่ Entrio Clinic เพื่อผิวมันและปัญหาสิว
เรา เรามี เทคโนโลยีความงาม ที่ทรงประสิทธิภาพในการจัดการกับ ผิวมัน และ ปัญหาสิว อย่างมากมายครับ
Morpheus8 (มอร์เฟียส8)
สุดยอด เทคโนโลยี RF Microneedling ที่สามารถส่งพลังงานคลื่นวิทยุลงไปลึกถึงชั้นต่อมไขมัน ช่วย ลดขนาดและยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ได้โดยตรง ทำให้การผลิตน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ ลดการเกิดสิวใหม่ และ ควบคุมความมันบนใบหน้า ได้อย่างเห็นผล นอกจากนี้ยังช่วย กระชับรูขุมขน และ รักษาหลุมสิว ไปพร้อมกัน ถือเป็นเครื่องมือที่ครบวงจรสำหรับ ผิวมัน และ ปัญหาสิว
การกดสิวและฉีดสิวโดยแพทย์
สำหรับ สิวอุดตัน และ สิวอักเสบ ที่ไม่สามารถจัดการได้ด้วยสกินแคร์ ผมและทีมงานที่ Entrio Clinic จะทำการกดสิวอย่างถูกวิธี เพื่อกำจัดหัวสิว ลดการอุดตัน และฉีดสิวอักเสบเพื่อลดการอักเสบและยุบสิวอย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงของการเกิด รอยสิว และ หลุมสิว ในอนาคต
Lumecca (ลูเมกก้า)
สำหรับจัดการกับ รอยแดงจากสิว และ รอยดำจากสิว ที่มักทิ้งร่องรอยไว้หลังจากสิวหาย ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและ ผิวกระจ่างใส ขึ้น
IV Drip วิตามินผิว
ช่วยบำรุงผิวจากภายใน ลดการอักเสบทั่วร่างกาย และเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกัน ของผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและลดโอกาสเกิดสิวใหม่
3. ผิวแห้ง (Dry Skin): 'ผิวที่โหยหาความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก'

สิ่งที่ผิวบอกคุณ
ถ้าคุณรู้สึกว่าผิวมีอาการดังต่อไปนี้ คุณอาจมี ผิวแห้ง ครับ ผิวแห้ง เกิดจากการที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมัน (Sebum) ได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ขาดน้ำมันเคลือบผิว และไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ดี ส่งผลให้ผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน และมี ปราการผิว ที่อ่อนแอ
ลักษณะที่คุณจะสังเกตเห็น (หลัง 30-60 นาที)
ความมัน
ผิวจะรู้สึกแห้งตึงอย่างมาก ไม่มีความมันวาวเลย หรือมีน้อยมาก แทบไม่มีน้ำมันส่วนเกินบนผิว อาจรู้สึกว่าผิว "เอี๊ยด" หลังล้างหน้า
รูขุมขน
มีขนาดเล็กมาก แทบมองไม่เห็น รูขุมขน ดูละเอียด
ความรู้สึก
รู้สึกแห้งตึง คัน ผิวอาจลอกเป็นขุย หรือเป็นสะเก็ดได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณแก้ม หน้าผาก หรือรอบปาก อาจรู้สึกเจ็บแสบเมื่อสัมผัสผิว หรือเมื่อทาสกินแคร์บางชนิด
โทนสีผิว
ผิวอาจดูหมองคล้ำ ไม่สดใส ไม่เปล่งปลั่ง มีแนวโน้มเกิดริ้วรอยเล็กๆ (Fine Lines) ได้ง่าย โดยเฉพาะรอบดวงตาและปาก ทำให้ผิวดูแก่กว่าวัย
ปัญหาผิว
ผิวอ่อนแอ มีแนวโน้มเกิดอาการแพ้ ระคายเคือง ผื่นแดง ผื่นคัน ได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น เนื่องจาก ปราการผิว ไม่แข็งแรงพอที่จะปกป้องผิวจากสิ่งกระตุ้นภายนอก
ความท้าทายของผิวแห้ง
การเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกและต่อเนื่อง พร้อมเสริมสร้าง ปราการผิว ให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำและเพิ่มความทนทานของผิวต่อสิ่งกระตุ้น
การดูแลจากมุมมอง 'หมอโนโน่'
เน้นการ "เติมความชุ่มชื้น" และ "เสริมสร้างปราการผิว" ให้แข็งแรงอย่างสูงสุด
ทำความสะอาด
ใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนมาก ปราศจากสบู่ (Soap-free) หรือคลีนเซอร์เนื้อครีม/โลชั่นที่ไม่มีฟอง ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหรือเอี๊ยดหลังล้าง เลือกสูตรที่ออกแบบมาสำหรับ ผิวแห้ง หรือ ผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะ
บำรุง
นี่คือหัวใจสำคัญ! เลือก มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่เข้มข้น มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นสูงและช่วยเสริม ปราการผิว เช่น Hyaluronic Acid (ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว), Glycerin (ช่วยกักเก็บน้ำ), Ceramides (องค์ประกอบสำคัญของ ปราการผิว), Cholesterol, Fatty Acids, Shea Butter, Squalane, หรือน้ำมันจากพืชธรรมชาติ ควรทา มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ในปริมาณที่เพียงพอ และควรทาทันทีหลังล้างหน้าตอนที่ผิวยังหมาดๆ เพื่อช่วยล็อกความชุ่มชื้น
ทรีตเมนต์ (เสริม)
อาจพิจารณาเซรั่มที่มีส่วนผสมของ Vitamin B5 (Panthenol) หรือ Niacinamide เพื่อช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง และเสริม ปราการผิว
ปกป้อง
ครีมกันแดด ที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น และเนื้อสัมผัสที่สบายผิว ไม่ทำให้แห้งตึง เลือกชนิด Physical Sunscreen ที่มี Zinc Oxide/Titanium Dioxide หากผิวแพ้ง่าย และควรทาทุกวันไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร
เทคโนโลยีความงามที่ Entrio Clinic เพื่อผิวแห้ง
Entrio Clinic ของเรา เราเข้าใจดีถึงความต้องการของ ผิวแห้ง และมี เทคโนโลยีความงาม ที่จะช่วยฟื้นฟูและเติมเต็มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกครับ เช่น
Definisse Hydrobooster (เดฟฟินิส ไฮโดรบูสเตอร์)
นี่คือ สกินบูสเตอร์ ที่ผมภูมิใจนำเสนอสำหรับ ผิวแห้ง โดยเฉพาะ การฉีด Hyaluronic Acid บริสุทธิ์เข้มข้นเข้าสู่ผิวโดยตรง จะช่วยเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกจากภายใน ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำน้ำ ลดริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดจากความแห้งกร้าน และเสริมสร้างคุณภาพผิวให้แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
IV Drip วิตามินผิว
นอกจากจะช่วยเรื่องสิวแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวจากภายใน ให้วิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงและชุ่มชื้น ทำให้ ผิวมีออร่า และสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
Lumecca (ลูเมกก้า)
สำหรับปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดรอยแดงที่อาจเกิดจากอาการแห้งหรือระคายเคือง ทำให้ ผิวกระจ่างใส และดูมีชีวิตชีวา
4. ผิวผสม (Combination Skin): 'สองบุคลิกในหนึ่งเดียว...ที่ต้องใส่ใจ'

สิ่งที่ผิวบอกคุณ
ถ้าคุณสังเกตว่าผิวของคุณมีอาการแตกต่างกันไปในแต่ละบริเวณ คุณมีแนวโน้มที่จะมี ผิวผสม ครับ ผิวผสม เป็น สภาพผิว ที่พบบ่อยที่สุดในคนไทย และมีความซับซ้อนในการดูแล เพราะมีคุณสมบัติของ ผิวมัน และ ผิวแห้ง หรือผิวธรรมดา อยู่รวมกันในใบหน้าเดียว
ลักษณะที่คุณจะสังเกตเห็น (หลัง 30-60 นาที)
ความมัน
มักจะมีความมันวาวอย่างเห็นได้ชัดและ รูขุมขน กว้างบริเวณ T-zone (หน้าผาก จมูก คาง) คล้าย ผิวมัน คุณอาจเห็นน้ำมันเยิ้มๆ บริเวณนี้
ความแห้ง/ธรรมดา
แต่บริเวณแก้มและกราม มักจะรู้สึกแห้งตึง หรือเป็นผิวธรรมดา ไม่มีความมัน หรืออาจรู้สึกสบายผิว
ปัญหาผิว
อาจพบ ปัญหาสิว และ รูขุมขน กว้างบริเวณ T-zone ในขณะที่บริเวณแก้มอาจมีอาการแห้งตึง หรือบางครั้งมีอาการแพ้ระคายเคือง
ความท้าทายของผิวผสม
การดูแลที่ต้องใช้ "ความพิถีพิถัน" และ "การดูแลแบบแยกส่วน" (Zone-specific care) คือต้องจัดการกับความมันและสิวในโซนหนึ่ง และเติมความชุ่มชื้นในอีกโซนหนึ่งไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ผิวทั่วทั้งใบหน้าอยู่ในภาวะสมดุล
การดูแลจากมุมมอง 'หมอโนโน่'
เน้นการ "ปรับสมดุล" และ "ดูแลแบบแยกโซน" อย่างชาญฉลาด
ทำความสะอาด
ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยน Non-comedogenic ที่สามารถใช้ได้ทั่วทั้งใบหน้า เลือกสูตรที่ให้ความรู้สึกสะอาดแต่ไม่แห้งตึง
ทรีตเมนต์
บริเวณ T-zone
อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันและลดสิว เช่น โทนเนอร์หรือเซรั่มที่มี BHA หรือ Niacinamide ทาเฉพาะบริเวณที่มีปัญหา
บริเวณแก้ม/กราม
หากรู้สึกแห้ง ควรหลีกเลี่ยงการทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวแห้งบริเวณนี้
บำรุง
เลือก มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เนื้อบางเบา ซึมง่าย Oil-free ที่ให้ความชุ่มชื้นพอเหมาะ และสามารถใช้ทั่วทั้งใบหน้าได้ หรืออาจใช้ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ สูตรควบคุมความมันบริเวณ T-zone และใช้สูตรให้ความชุ่มชื้นที่เข้มข้นขึ้นเล็กน้อยบริเวณแก้ม (หากแก้มแห้งมาก)
ปกป้อง
ครีมกันแดด สูตร Oil-free, Non-comedogenic ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา เพื่อให้สบายผิวในทุกโซน
เทคโนโลยีความงามที่ Entrio Clinic เพื่อผิวผสม
สำหรับ ผิวผสม ที่ คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ เราสามารถปรับแผนการรักษาให้เข้ากับความต้องการของแต่ละโซนผิวของคุณได้อย่างแม่นยำครับ
Morpheus8 (มอร์เฟียส8)
สามารถปรับความลึกของพลังงาน RF ได้อย่างแม่นยำ ทำให้เราสามารถเน้นการลดความมันและ กระชับรูขุมขน บริเวณ T-zone ในขณะที่ยังคงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทั่วใบหน้าโดยไม่ทำให้ส่วนที่แห้งระคายเคืองมากเกินไป
Lumecca (ลูเมกก้า)
ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอทั่วทั้งใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นรอยแดงจากสิวบริเวณ T-zone หรือจุดด่างดำเล็กๆ บนแก้ม ทำให้ ผิวกระจ่างใส และเรียบเนียน
Definisse Hydrobooster (เดฟฟินิส ไฮโดรบูสเตอร์)
หากแก้มแห้งมาก สามารถฉีดเพื่อเติมความชุ่มชื้นเฉพาะจุดได้ ทำให้ผิวสมดุลมากขึ้น
การดูแลผิวหน้าเฉพาะบุคคล (Personalized Facials)
เรามีโปรแกรมทรีตเมนต์หน้าที่ปรับส่วนผสมและเทคนิคให้เหมาะสมกับแต่ละโซนของ ผิวผสม โดยเฉพาะ เพื่อทำความสะอาดล้ำลึก ควบคุมความมัน และเติมความชุ่มชื้นในบริเวณที่ต้องการ
5. ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin): 'ผิวที่ต้องการความอ่อนโยนสูงสุดและความเข้าใจ'

สิ่งที่ผิวบอกคุณ
ถ้าผิวของคุณมีอาการดังต่อไปนี้อย่างสม่ำเสมอ คุณมีแนวโน้มที่จะมี ผิวแพ้ง่าย ครับ ผิวแพ้ง่าย ไม่ใช่ สภาพผิว ที่ตายตัวเหมือน 4 ประเภทแรกเสียทีเดียว แต่มักจะเกิดร่วมกับ ผิวแห้ง, ผิวมัน หรือ ผิวผสม ได้ ผิวแพ้ง่ายเป็น สภาพผิว ที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอกมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีในเครื่องสำอาง อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง สภาพอากาศ มลภาวะ แสงแดด หรือแม้แต่การสัมผัสเพียงเล็กน้อย
ลักษณะที่คุณจะสังเกตเห็น (หลัง 30-60 นาที หรือเมื่อสัมผัสสิ่งกระตุ้น)
การตอบสนอง
ผิวจะรู้สึกแสบ คัน แดง ร้อน ระคายเคือง หรือมีผื่นแดง ผื่นคัน ผื่นแพ้ขึ้นได้ง่าย เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือเจอสิ่งกระตุ้นที่เคยใช้ได้ปกติ แต่ตอนนี้มีอาการ
ปราการผิว
มักมี ปราการผิว ที่อ่อนแอ หรือถูกทำลาย ทำให้สารก่อการระคายเคืองซึมผ่านเข้าสู่ผิวได้ง่าย และสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ผิวจึงไวต่อการเปลี่ยนแปลงและสิ่งแปลกปลอม
ปัญหาผิว
อาจมี ปัญหาสิว ร่วมด้วยได้ แต่การรักษาสิวใน ผิวแพ้ง่าย ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากผิวจะไวต่อส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ใช้ในการรักษาสิว (เช่น Benzoyl Peroxide, Retinoids)
การอักเสบ
มักมีแนวโน้มที่จะเกิดการอักเสบได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น และการอักเสบมักคงอยู่นาน หรือกลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย
ความท้าทายของผิวแพ้ง่าย
การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ "ปราศจาก" สารก่อการระคายเคืองต่างๆ และการเสริมสร้าง ปราการผิว ให้แข็งแรง เพื่อเพิ่มความทนทานของผิวต่อสิ่งแวดล้อมและผลิตภัณฑ์
การดูแลจากมุมมอง 'หมอโนโน่'
หัวใจสำคัญคือ "ความอ่อนโยนสูงสุด" "การหลีกเลี่ยงสารกระตุ้น" และ "การเสริมสร้างปราการผิว"
ทำความสะอาด
ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนมาก ปราศจากสบู่ (Soap-free), น้ำหอม (Fragrance-free), แอลกอฮอล์ (Alcohol-free), สี (Colorant-free), พาราเบน (Paraben-free) และสารลดแรงตึงผิวที่รุนแรง ควรเลือกสูตรที่ออกแบบมาสำหรับ ผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะ
บำรุง
เลือก มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่เน้นส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง และเสริมสร้าง ปราการผิว เช่น Ceramides, Cholesterol, Fatty Acids (ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ ปราการผิว), Panthenol (Vitamin B5 ช่วยลดการอักเสบ), Hyaluronic Acid (ช่วยเติมความชุ่มชื้น) ควรเลือกสูตรที่เรียบง่าย มีส่วนผสมน้อยที่สุด เพื่อลดโอกาสการแพ้
ทรีตเมนต์ (อย่างระมัดระวัง)
หากมีปัญหาผิวอื่นๆ เช่น สิว หรือริ้วรอย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ และควรเริ่มต้นด้วยความเข้มข้นต่ำสุด และทาในปริมาณน้อยๆ
ปกป้อง
ครีมกันแดด ชนิด Physical Sunscreen (Mineral Sunscreen) ที่มีส่วนผสมของ Zinc Oxide และ/หรือ Titanium Dioxide เป็นหลัก เพราะอ่อนโยนและมีโอกาสระคายเคืองน้อยกว่า ควรเลือกสูตรที่ Non-comedogenic และ Fragrance-free
ข้อควรระวัง
ควรทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยการ Patch Test บริเวณท้องแขน หรือหลังใบหูเล็กน้อยเป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 วัน ก่อนนำมาใช้กับใบหน้าเสมอ หากมีอาการแพ้ ควรหยุดใช้ทันที และปรึกษาแพทย์
เทคโนโลยีความงามที่ Entrio Clinic เพื่อผิวแพ้ง่าย
สำหรับ ผิวแพ้ง่าย ที่ คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ ผมจะให้ความสำคัญกับความอ่อนโยนและความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เราจะเลือกใช้ เทคโนโลยีความงาม ที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และมุ่งเน้นการเสริมสร้าง ปราการผิว
การดูแลผิวหน้าเฉพาะบุคคล (Personalized Facials) สำหรับผิวแพ้ง่าย
เรามีโปรแกรมทรีตเมนต์หน้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์และเทคนิคที่อ่อนโยนเป็นพิเศษ ออกแบบมาเพื่อปลอบประโลม ลดการอักเสบ และเสริมความแข็งแรงให้กับ ปราการผิว โดยเฉพาะ
IV Drip วิตามินผิว
การให้วิตามินและสารอาหารผ่านเส้นเลือดโดยตรง ช่วยเสริม ภูมิคุ้มกัน ของผิว ลดการอักเสบทั่วร่างกาย และบำรุงผิวจากภายในโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองภายนอก
Lumecca (ลูเมกก้า)
ในบางกรณีที่ ผิวแพ้ง่าย มีปัญหา รอยแดงจากสิว หรือเส้นเลือดฝอย ผมอาจพิจารณาใช้ Lumecca โดยปรับค่าพลังงานที่เหมาะสมและระมัดระวัง เพื่อช่วยลดรอยแดงและปรับสีผิวให้สม่ำเสมออย่างอ่อนโยน
'หมอโนโน่' แนะนำ: ก้าวต่อไปสู่ 'ผิวสุขภาพดี' ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์

หลังจากที่คุณได้ลองสังเกต สภาพผิว ของตัวเองเบื้องต้นด้วย "วิธีล้างหน้าทิ้งไว้" กันไปแล้ว ผมหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของผิวคุณได้ชัดเจนขึ้นนะครับ
บางคนอาจจะมั่นใจว่ารู้แล้วว่าผิวตัวเองเป็นแบบไหน แต่บางคนก็อาจจะยังสับสนอยู่ว่าตัวเองเป็น ผิวผสม หรือ ผิวมัน กันแน่ หรือว่าผิวฉันเป็น ผิวแพ้ง่าย ร่วมกับ ผิวมัน หรือ ผิวแห้ง หรือไม่? คำถามเหล่านี้เป็นเรื่องปกติครับ เพราะผิวของเรานั้นซับซ้อนกว่าที่คิด และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยต่างๆ
สิ่งสำคัญที่ผม หมอโนโน่ แห่ง Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ อยากจะบอกคือ การวินิจฉัย สภาพผิว ที่แม่นยำที่สุดและเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณคือการปรึกษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ครับ
เพราะแพทย์สามารถประเมินปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อผิวของคุณได้อย่างครบถ้วน และใช้เครื่องมือเฉพาะทางในการวิเคราะห์ผิวที่ลึกซึ้งกว่าการสังเกตด้วยตาเปล่า
ที่ Entrio Clinic เราไม่ได้ให้แค่การรักษาปัญหาผิวที่ปลายเหตุ แต่เรามุ่งเน้นการสร้าง ผิวสุขภาพดี อย่างยั่งยืน โดยเริ่มต้นจากการ "เข้าใจผิวของคุณอย่างแท้จริง" ครับ ผมและทีมงานพร้อมที่จะ:
การซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด
เราจะเริ่มต้นด้วยการซักประวัติอย่างละเอียดถึงกิจวัตร การดูแลผิวหน้า พฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหารการกิน ความเครียด สุขภาพโดยรวม ประวัติการแพ้ยา หรือแพ้เครื่องสำอาง เพื่อทำความเข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อ สภาพผิว และปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงการตรวจผิวหน้าด้วยตาเปล่าและด้วยกล้องขยายทางการแพทย์เพื่อดูรายละเอียดของ รูขุมขน ความมัน เม็ดสี การอักเสบ และปัญหาผิวที่อาจซ่อนอยู่
การใช้เครื่องวิเคราะห์สภาพผิวที่ทันสมัย (Skin Analyzer)
ในบางกรณีที่จำเป็น หรือเพื่อการประเมินที่แม่นยำยิ่งขึ้น เราจะใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างเครื่องวิเคราะห์สภาพผิว (เช่น VISIA, Janus หรือเครื่องมืออื่นๆ ที่คล้ายกัน) ซึ่งสามารถวัดระดับความชุ่มชื้น ความมัน ความยืดหยุ่น ขนาด รูขุมขน ปริมาณเม็ดสี (รอยดำ ฝ้า กระ) การกระจายตัวของเชื้อแบคทีเรียหรือการอักเสบ และแม้กระทั่งการทำนายปัญหาผิวในอนาคตได้ ข้อมูลที่ได้จากเครื่องมือเหล่านี้จะมีความละเอียดและเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยให้ผมสามารถ วินิจฉัยสภาพผิว และปัญหาผิวของคุณได้อย่างแม่นยำที่สุด
การออกแบบแผนการดูแลผิวแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Treatment Plan)
จากข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการซักประวัติ การตรวจร่างกาย และการวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือ ผมจะนำมาประมวลผลและ ออกแบบแผนการดูแลผิวหน้า ที่ปรับให้เข้ากับ สภาพผิว ปัญหาผิว ความกังวล และความต้องการของคุณอย่างแท้จริงครับ แผนการนี้อาจจะครอบคลุมถึง:
การแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare Product Recommendation)
ผมจะแนะนำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, มอยส์เจอร์ไรเซอร์, เซรั่ม, ครีมกันแดด และทรีตเมนต์เฉพาะจุด ที่มีส่วนผสมและเนื้อสัมผัสที่เหมาะสมกับ สภาพผิว ของคุณที่สุด โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็น Non-comedogenic, Fragrance-free และอ่อนโยน
การจัดเรียงสกินแคร์รูทีนที่ถูกต้อง
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นทำงานเสริมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
การพิจารณาทรีตเมนต์หรือเทคโนโลยีความงามที่จำเป็น
สำหรับปัญหาผิวที่ซับซ้อน หรือต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจน ผมอาจแนะนำหัตถการหรือ เทคโนโลยีความงาม ที่เหมาะสม เช่น:
Morpheus8 (มอร์เฟียส8)
สำหรับ ผิวมัน รูขุมขน กว้าง และ ปัญหาสิว รวมถึง หลุมสิว และการยกกระชับ

Fractora (แฟรคโตรา)
สำหรับ หลุมสิว และรอยแผลเป็น
Lumecca (ลูเมกก้า)
สำหรับ รอยแดงจากสิว, รอยดำจากสิว, ฝ้า กระ และทำให้ ผิวกระจ่างใส
Definisse Hydrobooster (เดฟฟินิส ไฮโดรบูสเตอร์)
สำหรับ ผิวแห้ง และขาดความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ช่วยให้ผิวอิ่มฟู
IV Drip (วิตามินผิว)
เพื่อเสริมสร้าง ผิวสุขภาพดี จากภายในสู่ภายนอก และเพิ่ม ภูมิคุ้มกัน ของผิว
การกดสิว/ฉีดสิว
โดย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจัดการกับ ปัญหาสิว ที่มีอยู่
คำแนะนำด้านไลฟ์สไตล์และโภชนาการ
เพื่อเสริมสร้าง ผิวสุขภาพดี จากภายใน เพราะผิวที่ดีมาจากสุขภาพร่างกายที่ดีโดยรวม
การลงทุนกับการทำความเข้าใจผิวของคุณ คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในการเดินทางสู่ ผิวสุขภาพดี และ ผิวสวย ที่ยั่งยืนครับ! อย่าปล่อยให้ความไม่แน่ใจเรื่อง สภาพผิว มาขัดขวางการมีผิวที่สมบูรณ์แบบของคุณอีกต่อไปครับ!
ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ราชประสงค์ ผม หมอโนโน่ และทีมงานพร้อมที่จะเป็น "เพื่อนร่วมทาง" ที่จะนำคุณไปสู่ "ผิวในฝัน" ที่แข็งแรงและมั่นใจครับ เรามุ่งมั่นที่จะมอบ "Refined Aesthetic Experience" หรือประสบการณ์ความงามที่เหนือระดับ ที่มาจากความเข้าใจในศาสตร์แห่งผิวพรรณอย่างลึกซึ้ง และการดูแลด้วยหัวใจ
มาปรึกษาผม หมอโนโน่ ที่ Entrio Clinic วันนี้ เพื่อไขความลับของผิวคุณ และเริ่มต้นดูแลผิวอย่างผู้เชี่ยวชาญครับ!
Entrio Clinic - Refined Aesthetic Experience
“เราเชื่อว่า ความสวยที่แท้จริง มาจากสุขภาพผิวที่ดี และความเข้าใจในวิทยาศาสตร์”
📍 ที่ตั้ง: https://maps.app.goo.gl/X9WpN51pnK5otKip8
ชั้น 4 ตึกเอราวัณ แบงค็อก (Erawan Bangkok), สี่แยกราชประสงค์ (หลังศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ) กรุงเทพมหานคร
💬 Line: @entrioclinic หรือคลิก bit.ly/EntrioLine
📞 โทร: 097-154-2222
🌐 Website: entrioclinic.com
💻 Facebook: facebook.com/EntrioClinic
📷 Instagram: entrioclinic หรือคลิ๊ก instagram.com/entrioclinic/
Comments