top of page
  • Whatsapp
  • Line
  • Facebook
  • Instagram
ค้นหา

ความลับสู่ผิวเฟิร์ม! Morpheus8 หรือ Ultherapy PRIME? 'หมอโนโน่' แห่ง Entrio Clinic คลินิกเวชกรรมความงาม ย่านราชประสงค์ มีคำตอบสำหรับหัตถการ 'ยกกระชับหน้า'

ความลับสู่ผิวเฟิร์ม! Morpheus8 หรือ Ultherapy PRIME? 'หมอโนโน่' แห่ง Entrio Clinic คลินิกเวชกรรมความงาม ย่านราชประสงค์ มีคำตอบสำหรับหัตถการ 'ยกกระชับหน้า'
ความลับสู่ผิวเฟิร์ม! Morpheus8 หรือ Ultherapy PRIME? 'หมอโนโน่' แห่ง Entrio Clinic คลินิกเวชกรรมความงาม ย่านราชประสงค์ มีคำตอบสำหรับหัตถการ 'ยกกระชับหน้า'

สวัสดีครับ! ผม นายแพทย์ ชนภัทร ชินเวชกิจวานิชย์ หรือ หมอโนโน่ ว.60686 แพทย์เจ้าของ คลินิกเวชกรรมความงาม Entrio Clinic ครับ


ในฐานะแพทย์ผิวหนังผู้ดูแลความงามให้กับคนไข้จำนวนมากที่ คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ แห่งนี้ ผมมักได้ยินคำถามยอดฮิตอยู่เสมอว่า "คุณหมอคะ/ครับ ระหว่าง Morpheus8 กับ Ultherapy PRIME อันไหนดีกว่ากันคะ/ครับ?" หรือ "อยาก ยกกระชับหน้า ผิวหย่อนคล้อย ควรเลือกอะไรดี?"


ผมเข้าใจดีครับว่าในโลกของ เทคโนโลยีความงาม ที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว มีตัวเลือกมากมายที่อาจทำให้คุณสับสนได้ แต่ไม่ต้องกังวลครับ! วันนี้ผม หมอโนโน่ จะมาคลายทุกข้อสงสัย เจาะลึกถึงหลักการทำงาน ความโดดเด่น และความเหมาะสมของทั้งสองหัตถการ ยกกระชับหน้า ยอดนิยมอย่าง Morpheus8 และ Ultherapy PRIME เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่ "ใช่" ที่สุดสำหรับปัญหาผิวของคุณ และค้นพบ "ความลับสู่ผิวเฟิร์ม" ที่แท้จริงครับ


การมีผิวที่หย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีริ้วรอยต่างๆ ย่อมทำให้เรากังวลใจและสูญเสียความมั่นใจไปได้ง่ายๆ ครับ ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังพบได้ในคนวัยหนุ่มสาวที่มีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ หรือเผชิญกับปัจจัยกระตุ้นต่างๆ เช่น แสงแดด มลภาวะ และความเครียด


ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ ผมเชื่อว่าการจะแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างยั่งยืนนั้น ต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจ "รากเหง้าของปัญหา" อย่างถ่องแท้ และการเลือก "เครื่องมือ" ที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ไม่ใช่เพียงแค่ตามกระแส หรือทำตามๆ กันไปครับ

Part 1: ทำความเข้าใจ 'ผิวหย่อนคล้อย' – ปัญหาที่ซ่อนความลับสู่ผิวเฟิร์ม

ก่อนที่เราจะดำดิ่งลงไปในรายละเอียดของ Morpheus8 และ Ultherapy PRIME หรือแม้แต่ Oligio ซึ่งเป็นนวัตกรรมล้ำสมัยสำหรับการ ยกกระชับหน้า ผมอยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจถึง "รากเหง้าของปัญหา" กันก่อน นั่นคือ "ผิวหย่อนคล้อย" ครับ การที่เราเข้าใจว่าผิวของเราหย่อนคล้อยได้อย่างไร จะช่วยให้เราเลือกวิธีการรักษาที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างแม่นยำ


ลองจินตนาการถึงบ้านสักหลังนะครับ บ้านที่สวยงามและแข็งแรงย่อมมีโครงสร้างที่ดี ผิวหน้าของเราก็เช่นกันครับ การจะคงความอ่อนเยาว์และกระชับได้นั้น ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของโครงสร้างหลายชั้น เมื่อโครงสร้างเหล่านี้เริ่มเสื่อมสภาพลง ใบหน้าของเราก็จะเริ่มแสดงสัญญาณของความหย่อนคล้อยออกมา


ปัญหา ผิวหย่อนคล้อย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้นนะครับ ปัจจุบันนี้ผมพบว่าคนไข้ในวัยหนุ่มสาวก็เริ่มเผชิญกับปัญหานี้มากขึ้น สาเหตุหลักๆ มีดังนี้ครับ:

1.1. การสูญเสีย ‘คอลลาเจน’ และ ‘อีลาสติน’: เสาค้ำยันและสปริงของผิวที่อ่อนแอลง

การสูญเสีย ‘คอลลาเจน’ และ ‘อีลาสติน’: เสาค้ำยันและสปริงของผิวที่อ่อนแอลง
การสูญเสีย ‘คอลลาเจน’ และ ‘อีลาสติน’: เสาค้ำยันและสปริงของผิวที่อ่อนแอลง

นี่คือปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดและเป็นธรรมชาติของความชราครับ

  • คอลลาเจน (Collagen): ‘เสาค้ำยัน’ แห่งความแน่นกระชับ

    • ทำความรู้จัก: คอลลาเจน คือโปรตีนโครงสร้างหลักที่พบมากที่สุดในผิวหนังของเราครับ คิดง่ายๆ เหมือนกับ "โครงสร้างเหล็ก" หรือ "เสาค้ำยัน" ที่ให้ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความแน่นกระชับกับผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึงและเรียบเนียน

    • สาเหตุของการสูญเสีย:

      • อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่อเราก้าวเข้าสู่วัย 20 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มผลิต คอลลาเจน ลดลงประมาณ 1% ต่อปีอย่างต่อเนื่อง นอกจากปริมาณที่ลดลงแล้ว คุณภาพของ คอลลาเจน ที่ผลิตได้ก็ด้อยลงด้วยครับ เส้นใยเริ่มไม่แข็งแรงและจัดเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ

      • แสงแดด (Photoaging): รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดด เป็นศัตรูตัวฉกาจของ คอลลาเจน เลยครับ มันจะเข้าไปทำลายเส้นใย คอลลาเจน ทำให้มันแตกหักและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของ ผิวหย่อนคล้อย และ ริ้วรอย ก่อนวัย

      • อนุมูลอิสระและมลภาวะ: ควันบุหรี่ มลภาวะทางอากาศ และสารพิษต่างๆ สามารถสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งทำลายเซลล์ผิวและเส้นใย คอลลาเจน ได้เช่นกัน

      • พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์: การนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียด การดื่มแอลกอฮอล์ และโภชนาการที่ไม่เหมาะสม ล้วนส่งผลกระทบต่อการผลิตและคุณภาพของ คอลลาเจน ได้


  • อีลาสติน (Elastin): ‘สปริง’ แห่งความยืดหยุ่น

    • ทำความรู้จัก: อีลาสติน คือโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ คอลลาเจน ครับ มันทำหน้าที่เหมือน "สปริง" ที่ช่วยให้ผิวของเราสามารถยืดหยุ่นและหดกลับคืนสู่สภาพเดิมได้หลังจากที่เราแสดงสีหน้า หรือมีการขยับของผิว

    • สาเหตุของการสูญเสีย: คล้ายคลึงกับ คอลลาเจน ครับ อีลาสติน ก็จะเสื่อมสภาพลงตามวัยและจากปัจจัยภายนอกเช่นกัน เมื่อ อีลาสติน ลดลงหรือเสื่อมสภาพ ผิวของเราก็จะขาดความยืดหยุ่น ยืดแล้วไม่คืนตัว ทำให้เกิด ริ้วรอย ถาวร และผิวที่ดูย้วยๆ ไม่กระชับ


ผลกระทบต่อผิว: เมื่อ คอลลาเจน ซึ่งเป็นเสาค้ำยันอ่อนแอลง และ อีลาสติน ซึ่งเป็นสปริงเสื่อมสภาพ ผิวของเราก็เริ่มที่จะไม่แข็งแรง ขาดความยืดหยุ่น และไม่สามารถต้านทานแรงโน้มถ่วงได้ดีเหมือนเดิมครับ ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย ริ้วรอยตื้นๆ ผิวดูไม่เต่งตึง และขาดความเปล่งปลั่ง

1.2. การหย่อนคล้อยของ ‘ชั้น SMAS’: ฐานรากของใบหน้าที่ทรุดตัว

 การหย่อนคล้อยของ ‘ชั้น SMAS’: ฐานรากของใบหน้าที่ทรุดตัว
 การหย่อนคล้อยของ ‘ชั้น SMAS’: ฐานรากของใบหน้าที่ทรุดตัว

นี่คือโครงสร้างที่สำคัญที่สุดในการคงสภาพ ยกกระชับหน้า และเป็นเป้าหมายหลักของเทคโนโลยีอย่าง Ultherapy PRIME ครับ

  • ทำความรู้จัก: ชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ไม่ใช่แค่ชั้นผิวหนังธรรมดาๆ นะครับ แต่เป็นเนื้อเยื่อชั้นบางๆ ที่อยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนังและชั้นไขมัน เปรียบเสมือน "แผ่นพยุง" ขนาดใหญ่ หรือ "โครงข่ายเส้นเอ็น" ที่คอยยึดเกาะและยกกระชับผิวหน้าทั้งหมด รวมถึงกล้ามเนื้อแสดงสีหน้าและไขมันบนใบหน้าให้คงที่อยู่กับที่

    • ลองนึกภาพใบหน้าของเราเป็นบ้านนะครับ ถ้า คอลลาเจน และ อีลาสติน คือวัสดุก่อสร้างที่ทำให้ผนังบ้านแข็งแรง ชั้น SMAS ก็คือ "ฐานราก" ที่สำคัญที่สุดของบ้านครับ หากฐานรากทรุด ตัวบ้านย่อมทรุดตาม


  • สาเหตุของการหย่อนคล้อย:

    • อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น ชั้น SMAS ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพลงตามธรรมชาติ สูญเสียความแข็งแรงและความยืดหยุ่นไป ทำให้ไม่สามารถพยุงผิวไว้ได้เหมือนเดิม

    • แรงโน้มถ่วง: แรงโน้มถ่วงของโลกทำงานกับผิวหน้าของเราตลอดเวลาครับ เมื่อ ชั้น SMAS อ่อนแอลง ผิวและเนื้อเยื่อต่างๆ ก็จะถูกดึงลงมาตามแรงโน้มถ่วง

    • ปัจจัยภายนอก: การสัมผัสรังสี UV การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว และการแสดงสีหน้าซ้ำๆ ก็สามารถส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของ ชั้น SMAS ได้


  • ผลกระทบต่อใบหน้า: เมื่อ ชั้น SMAS เริ่มหย่อนคล้อยและอ่อนแอลง จะส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ๆ ที่เห็นได้ชัดเจนบนใบหน้า:

    • แก้มหย่อนคล้อย (Jowls): เนื้อบริเวณแก้มด้านล่างจะเริ่มห้อยลงมา บดบังแนวขากรรไกร ทำให้ใบหน้าดูหนักและไม่คมชัด

    • กรอบหน้าไม่ชัดเจน: แนวขากรรไกรที่เคยคมชัดจะเลือนหายไป ทำให้ใบหน้าดูเป็นชิ้นเดียวกับลำคอ ไม่ได้รูปทรง V-Shape ที่ต้องการ

    • เหนียงย้อย / คางสองชั้น: แม้จะไม่ได้มีไขมันเยอะ แต่การหย่อนคล้อยของ ชั้น SMAS บริเวณใต้คางและลำคอก็ทำให้เกิด เหนียงย้อย หรือคางสองชั้นได้

    • คิ้วและหางตาตก: การหย่อนคล้อยของ ชั้น SMAS บริเวณหน้าผากและรอบดวงตา ก็ส่งผลให้คิ้วและหางตาตกลงมา ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและมีอายุ

1.3. การสะสมของ ‘ไขมันส่วนเกิน’: ปริมาตรที่ถ่วงให้คล้อยและบดบังกรอบหน้า

การสะสมของ ‘ไขมันส่วนเกิน’: ปริมาตรที่ถ่วงให้คล้อยและบดบังกรอบหน้า
การสะสมของ ‘ไขมันส่วนเกิน’: ปริมาตรที่ถ่วงให้คล้อยและบดบังกรอบหน้า

แม้ว่าบทบาทหลักของไขมันส่วนเกินจะทำให้ใบหน้าดู หน้ากลม หรืออูม แต่ในบริบทของ ผิวหย่อนคล้อย ไขมันส่วนเกินก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่สำคัญครับ

  • ทำความรู้จัก: ไขมันสะสมบริเวณแก้ม (Buccal Fat Pad) และไขมันใต้คางหรือ เหนียง (Submental Fat)

  • ผลกระทบต่อความหย่อนคล้อย:

    • ถ่วงผิว: ปริมาตรของไขมันเหล่านี้จะเพิ่มน้ำหนักให้กับใบหน้า ทำให้โครงสร้างผิวทั้งหมดถูก "ถ่วง" ลงมาตามแรงโน้มถ่วงได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ความหย่อนคล้อยปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้น

    • บดบังกรอบหน้า: ไขมันที่สะสมมากเกินไปบริเวณแก้มและใต้คาง จะบดบังแนวขากรรไกรที่ควรจะคมชัด ทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ และยิ่งเสริมให้ดูหย่อนคล้อย

บทสรุปจาก ‘หมอโนโน่’ สำหรับ ปัญหาผิวหย่อนคล้อย

จะเห็นได้ว่าปัญหา ผิวหย่อนคล้อย นั้นมีที่มาที่ไปที่ซับซ้อน ไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียวเสมอไปครับ แต่เกิดจากการเสื่อมสภาพและเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างต่างๆ ในชั้นผิวและใต้ผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นการลดลงของ คอลลาเจน และ อีลาสติน, การหย่อนคล้อยของ ชั้น SMAS, หรือแม้แต่การสะสมของ ไขมันส่วนเกิน

ดังนั้น การจะแก้ไขปัญหา ผิวหย่อนคล้อย และทำการ ยกกระชับหน้า ให้ได้ผลลัพธ์ที่ "เห็นผลจริง" และ "ยั่งยืน" นั้น จึงจำเป็นต้องอาศัย:

  1. การวินิจฉัยที่แม่นยำ: การที่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำการประเมินใบหน้าของคุณอย่างละเอียด จะช่วยระบุได้ว่าปัญหาหลักของคุณคืออะไร เกิดจากชั้นผิวใดบ้าง และมีปัจจัยใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง

  2. ความเข้าใจในกลไกของเทคโนโลยี: แพทย์ต้องมีความรู้ความเข้าใจในหลักการทำงานของ เทคโนโลยีความงาม แต่ละชนิด เพื่อเลือกเครื่องมือที่สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาในชั้นผิวที่ถูกต้องได้อย่างตรงจุดและปลอดภัย

  3. แผนการรักษาเฉพาะบุคคล: ไม่มีแผนการรักษาใดที่เหมาะกับทุกคน การออกแบบโปรแกรมที่ปรับให้เข้ากับปัญหาและความต้องการเฉพาะของคุณเท่านั้นที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ ผมพร้อมที่จะวิเคราะห์ปัญหาผิวหน้าของคุณอย่างลึกซึ้ง เพื่อหา "สาเหตุที่แท้จริง" ของความกังวลของคุณ และจากนั้น ผมจะออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้คุณได้ค้นพบผิวหน้าที่ "เฟิร์ม" กระชับ อ่อนเยาว์ และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับคุณในทุกมุมมองครับ


ใน Part ถัดไป เราจะไปเจาะลึกถึงพระเอกของเรื่องอย่าง Ultherapy PRIME และ Morpheus8 กันครับว่าสองเทคโนโลยีนี้มีความแตกต่างและโดดเด่นอย่างไรในการ ยกกระชับหน้า และฟื้นฟูผิว!

Part 2: เจาะลึก 'Ultherapy PRIME' – การยกกระชับจากรากฐานที่ลึกที่สุด (The Foundation Lifter)

ใน Part แรก เราได้ทำความเข้าใจกันไปแล้วนะครับว่า "ผิวหย่อนคล้อย" นั้นมีที่มาจากสาเหตุหลักๆ คือการสูญเสีย คอลลาเจน และ อีลาสติน รวมถึงการหย่อนคล้อยของ ชั้น SMAS ซึ่งเป็นเสมือน "ฐานราก" ที่สำคัญของใบหน้า วันนี้ผมจะพาคุณไปเจาะลึกถึงหนึ่งในเทคโนโลยีการ ยกกระชับหน้า ที่ผมไว้วางใจและเลือกใช้เป็นหัวใจหลักของ Entrio Clinic นั่นคือ Ultherapy PRIME ครับ


ถ้าพูดถึงการยกกระชับที่เน้น "รากฐาน" ของใบหน้า Ultherapy PRIME คือคำตอบที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับในระดับโลกครับ เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแค่ดูแลผิวชั้นบน แต่ยังลงลึกถึงชั้นโครงสร้างสำคัญที่ทำให้ใบหน้าของเราเต่งตึงและได้รูปทรง

2.1. หลักการทำงานของ Ultherapy PRIME: พลังเสียงที่แม่นยำสู่ชั้นลึกสุด

    Ulthera Prime การปล่อยพลังงานในแต่ละชั้นผิว ลงลึกถึงชั้น SMAS
Ulthera Prime การปล่อยพลังงานในแต่ละชั้นผิว ลงลึกถึงชั้น SMAS

Ultherapy PRIME ไม่ใช่เลเซอร์ ไม่ใช่คลื่นวิทยุแบบทั่วไปครับ แต่ใช้ พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง (Micro-focused Ultrasound with visualization - MFU-V) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้แตกต่างจากการยกกระชับด้วยเครื่องมืออื่น ๆ พลังงานนี้ทำงานอย่างไร มาดูกันครับ:


  • คลื่นเสียงสู่ชั้นลึก: Ultherapy PRIME ปล่อยพลังงานอัลตราซาวด์ที่มีความถี่สูงและมีความแม่นยำสูงมาก คลื่นเสียงเหล่านี้สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังและชั้นไขมันลงไปได้ลึกถึงโครงสร้างที่ต้องการเป้าหมายโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน

  • สร้างจุดพลังงานความร้อน (Thermal Coagulation Points - TCPs): เมื่อพลังงานอัลตราซาวด์ถูกส่งลงไปในเนื้อเยื่อที่ความลึกที่กำหนด มันจะไปรวมตัวกันและสร้าง "จุดพลังงานความร้อน" หรือ TCPs ขนาดเล็กๆ นับพันจุด กระจายตัวในลักษณะเป็น "เส้น" ใต้ผิวหนัง ความร้อนที่เกิดขึ้นนี้เป็นความร้อนที่เหมาะสม (ประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส) ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

  • เป้าหมายหลักคือ 'ชั้น SMAS': รากฐานของการยกกระชับ: หัวใจสำคัญที่ทำให้ Ultherapy PRIME เหนือกว่าคือความสามารถในการส่งพลังงานลงลึกถึง ชั้น SMAS ที่ความลึก 4.5 มม. ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อใบหน้า และเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า เมื่อพลังงานลงไปที่ ชั้น SMAS จะทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อทันที (เปรียบเสมือนการ "เย็บ" ผิวจากภายใน) ส่งผลให้เกิดการยกกระชับตั้งแต่โครงสร้างชั้นลึกสุด

  • การกระตุ้นในหลายระดับชั้นเพื่อผลลัพธ์รอบด้าน: นอกจาก ชั้น SMAS แล้ว Ultherapy PRIME ยังสามารถปรับหัวยิงเพื่อส่งพลังงานลงไปในชั้นอื่นๆ ได้แก่:

    • ความลึก 3.0 มม.: ลงลึกถึงชั้น หนังแท้ตอนล่าง และบางส่วนของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน และ อีลาสติน ทำให้ผิวโดยรวมแน่นกระชับขึ้น

    • ความลึก 1.5 มม.: ลงลึกถึงชั้น หนังแท้ตอนบน เพื่อช่วยกระชับผิวชั้นบน ลดริ้วรอยตื้นๆ และปรับปรุงคุณภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น


การทำงานแบบ "ลงลึกถึงรากฐาน" และ "ครอบคลุมหลายระดับชั้น" คือสิ่งที่ทำให้ Ultherapy PRIME แตกต่างและมอบผลลัพธ์การ ยกกระชับหน้า ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน

2.2. DeepSEE® Technology: เห็นจริง ลึกจริง ปลอดภัยจริง ในทุกขั้นตอน

DeepSEE® Technology: เห็นจริง ลึกจริง ปลอดภัยจริง ในทุกขั้นตอน
DeepSEE® Technology: เห็นจริง ลึกจริง ปลอดภัยจริง ในทุกขั้นตอน

สิ่งที่ทำให้ Ultherapy PRIME โดดเด่นและสร้างความมั่นใจให้กับทั้งแพทย์และคนไข้ได้อย่างแท้จริงคือ "DeepSEE® Technology" ครับ เทคโนโลยีนี้เปรียบเสมือน "ตา" ของผมในการทำหัตถการนี้เลยทีเดียว


  • มองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์: ในขณะที่ผมกำลังทำหัตถการ ผมสามารถ มองเห็นภาพชั้นผิวของคุณบนหน้าจอแบบเรียลไทม์ ได้ตลอดเวลา ทำให้ผมรู้ว่าพลังงานที่ส่งออกไปนั้นลงลึกถึงชั้นผิวที่ต้องการอย่างแม่นยำที่สุด


  • ความแม่นยำที่ไม่เคยมีมาก่อน: การมองเห็นทำให้ผมสามารถกำหนดจุดยิงพลังงานลงไปยัง ชั้น SMAS หรือชั้นหนังแท้อื่นๆ ได้อย่างแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่มีการยิงสะเปะสะปะ


  • ความปลอดภัยสูงสุด: นี่คือหัวใจสำคัญของ DeepSEE Technology ครับ การที่ผมมองเห็นโครงสร้างใต้ผิวหนังได้ชัดเจน ทำให้ผมสามารถ หลีกเลี่ยงเส้นประสาทสำคัญ เส้นเลือด หรือกระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมาก ผมไม่สามารถทำงานแบบ "เดาสุ่ม" กับใบหน้าของคุณได้เด็ดขาด!


  • มั่นใจในพลังงานที่ส่งถึงเป้าหมาย: การเห็นภาพชั้นผิวแบบสดๆ ยังช่วยให้ผมมั่นใจได้ว่าพลังงานที่ยิงลงไปนั้นถูกส่งไปถึงเป้าหมายที่ต้องการอย่างแท้จริง ไม่มีการสูญเสียพลังงานในชั้นที่ไม่จำเป็น ทำให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามที่ควรจะเป็น


ด้วย DeepSEE® Technology คุณสามารถมั่นใจได้ว่าทุกช็อตพลังงานที่ยิงลงไปนั้น ผ่านการวางแผนและควบคุมโดยแพทย์อย่างผมอย่างพิถีพิถันและปลอดภัยที่สุด ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับแรกเสมอครับ

2.3. จุดเด่นและผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จาก Ultherapy PRIME

จุดเด่นและผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จาก Ultherapy PRIME
จุดเด่นและผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จาก Ultherapy PRIME

Ultherapy PRIME ไม่ได้เป็นเพียงแค่การยกกระชับ แต่เป็นการฟื้นฟูโครงสร้างใบหน้าจากภายในครับ นี่คือสิ่งที่คุณสามารถคาดหวังได้:

  • การยกกระชับจากรากฐานที่ชัดเจน: ผลลัพธ์หลักที่โดดเด่นที่สุดคือการ ยกกระชับหน้า และลำคอ โดยเฉพาะบริเวณแก้มที่หย่อนคล้อย กรอบหน้า และเหนียง จะรู้สึกได้ถึงความกระชับที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

  • คืนกรอบหน้าคมชัด (V-Shape Reimagined): สำหรับผู้ที่กังวลเรื่อง กรอบหน้าไม่ชัด หรือ เหนียงย้อย Ultherapy PRIME จะช่วยยกและจัดเก็บเนื้อบริเวณนี้ ทำให้ กรอบหน้ากลับมาคมชัด ได้รูปทรง V-Shape ที่สวยงามและอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น

  • ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยเฉพาะจุด: ช่วยแก้ไขปัญหาคิ้วตก หนังตาตก ที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวและโครงสร้างเบื้องล่าง ทำให้ดวงตาดูเปิดกว้างขึ้น และใบหน้าโดยรวมดูสดใสขึ้น

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว: ผลลัพธ์ไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทั้งหมดครับ หลังทำ ผิวจะเริ่มกระชับขึ้นบางส่วน แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะค่อยๆ ปรากฏและดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 2-3 เดือน และจะเห็นผลสูงสุดที่ 3-6 เดือน เนื่องจากร่างกายกำลังกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน และ อีลาสติน ใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวแน่นและยืดหยุ่นจากภายใน

  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ: การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูตึงหรือแข็งกระด้างจนผิดสังเกต

  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน: โดยทั่วไป ผลลัพธ์ของ Ultherapy PRIME สามารถคงอยู่ได้นานถึง 1-1.5 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้นในบางราย ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

  • ไม่ทิ้งรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น: เป็นหัตถการที่ไม่มีแผล ไม่ต้องใช้เข็มหรือการฉีด (ยกเว้นยาชาเฉพาะจุดที่อาจใช้บางเคส) คุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำ

2.4. ใครที่เหมาะกับการทำ Ultherapy PRIME?

ใครที่เหมาะกับการทำ Ultherapy PRIME?
ใครที่เหมาะกับการทำ Ultherapy PRIME?

ในมุมมองของ หมอโนโน่ การแนะนำ Ultherapy PRIME จะเหมาะกับกลุ่มคนไข้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้ครับ:

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง: ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า คอ หรือลำคอ

  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับโครงสร้างผิวชั้นลึก: โดยเฉพาะผู้ที่กังวลเรื่องการหย่อนคล้อยของ ชั้น SMAS

  • ผู้ที่ต้องการคืน 'กรอบหน้าคมชัด': ผู้ที่รู้สึกว่าแนวขากรรไกรเริ่มไม่คม หรือมีเนื้อบริเวณแก้มด้านล่างห้อยลงมา

  • ผู้ที่ต้องการลด 'เหนียงย้อย': ผู้ที่ต้องการกระชับผิวบริเวณใต้คางให้เรียบเนียนขึ้น

  • ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนและชะลอความหย่อนคล้อยในระยะยาว: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์อย่างต่อเนื่อง

  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และไม่ต้องการผ่าตัด: เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการผ่าตัดดึงหน้า


สำหรับผู้ที่อายุมากขึ้น หรือมีปัญหาหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก การทำ Ultherapy PRIME เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอเสมอไป ซึ่งในกรณีเช่นนี้ ผมอาจพิจารณาการทำ Combination Treatment ร่วมกับหัตถการอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งผมจะกล่าวถึงใน Part ถัดไปครับ

บทสรุปจาก ‘หมอโนโน่’ สำหรับ Ultherapy PRIME 

บทสรุปจาก ‘หมอโนโน่’ สำหรับ Ultherapy PRIME 
บทสรุปจาก ‘หมอโนโน่’ สำหรับ Ultherapy PRIME 

Ultherapy PRIME คือนวัตกรรมที่เข้ามาเปลี่ยนมุมมองของการ ยกกระชับหน้า โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดอย่างแท้จริง ด้วยความสามารถในการส่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ลงลึกถึง ชั้น SMAS พร้อมเทคโนโลยี DeepSEE® ที่ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวขณะทำ นี่คือเครื่องมือที่ทรงพลังและปลอดภัย ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ ผมมั่นใจในประสิทธิภาพของ Ultherapy PRIME ที่จะช่วยคืนความกระชับ กรอบหน้าคมชัด และความอ่อนเยาว์ให้กับคุณได้อย่างเป็นธรรมชาติครับ


ใน Part ถัดไป ผมจะพาคุณไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ Morpheus8 ซึ่งแม้จะโดดเด่นในเรื่องการ ยกกระชับหน้า และ กระตุ้นคอลลาเจน เช่นกัน แต่มีกลไกการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ เตรียมตัวพบกับ "ความลับสู่ผิวเฟิร์ม" อีกมิติหนึ่งได้เลย!

Part 3: เจาะลึก 'Morpheus8' – การฟื้นฟูผิว ลดไขมันเล็กน้อย และกระตุ้นคอลลาเจนหลายมิติ (The Skin Refiner & Volume Reducer)

เจาะลึก 'Morpheus8' – การฟื้นฟูผิว ลดไขมันเล็กน้อย และกระตุ้นคอลลาเจนหลายมิติ (The Skin Refiner & Volume Reducer)
เจาะลึก 'Morpheus8' – การฟื้นฟูผิว ลดไขมันเล็กน้อย และกระตุ้นคอลลาเจนหลายมิติ (The Skin Refiner & Volume Reducer)

ใน Part ที่แล้ว เราได้ทำความรู้จักกับ Ultherapy PRIME ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่โดดเด่นในการ ยกกระชับหน้า จากโครงสร้างชั้นลึกอย่าง ชั้น SMAS ไปแล้วนะครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนมาเจาะลึกถึงอีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง นั่นคือ Morpheus8 (มอร์เฟียส 8) ครับ


หาก Ultherapy PRIME เปรียบเสมือนสถาปนิกที่เข้าไปปรับโครงสร้างหลักของบ้าน Morpheus8 ก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งภายในและภายนอก ที่จะช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้เรียบเนียน กระชับ ลดไขมันส่วนเกินเล็กน้อย และกระตุ้น คอลลาเจน ได้อย่างครอบคลุมในหลายมิติ ที่ Entrio Clinic เรามองว่าทั้งสองเทคโนโลยีนี้เป็นเหมือนคู่หูที่ทำงานเสริมกันได้อย่างลงตัวครับ

3.1. หลักการทำงานของ Morpheus8: พลังงาน RF ผสานเข็มจิ๋ว ปฏิวัติผิวใหม่

 หลักการทำงานของ Morpheus8: พลังงาน RF ผสานเข็มจิ๋ว ปฏิวัติผิวใหม่
 หลักการทำงานของ Morpheus8: พลังงาน RF ผสานเข็มจิ๋ว ปฏิวัติผิวใหม่

Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานนวัตกรรมล้ำสมัยสองอย่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างชาญฉลาด นั่นคือ Microneedling (เข็มขนาดเล็ก) และ Radiofrequency (RF) Energy (คลื่นวิทยุความถี่สูง) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การฟื้นฟูผิวที่เหนือกว่า:


  • Microneedling (เข็มขนาดเล็กนำส่งพลังงาน):

    • หัวของเครื่อง Morpheus8 จะมีเข็มขนาดเล็กจิ๋วที่บางมากจำนวนมาก (โดยทั่วไปมี 24 เข็ม หรือ 40 เข็ม) ซึ่งปลายเข็มเหล่านี้จะเคลือบด้วยสารทองคำ (Gold-plated microneedles)

    • สิ่งที่พิเศษคือเข็มเหล่านี้สามารถปรับความลึกในการลงสู่ชั้นผิวได้อย่างละเอียดมากๆ ตั้งแต่ 1 มม. ไปจนถึงสูงสุด 8 มม. ทำให้แพทย์สามารถเลือกความลึกที่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละราย และในแต่ละบริเวณบนใบหน้าหรือลำตัวได้อย่างแม่นยำ


  • Radiofrequency (RF) Energy (คลื่นวิทยุความถี่สูง):

    • เมื่อเข็มจิ๋วลงไปถึงความลึกที่กำหนดในชั้นผิว พลังงาน RF จะถูกปล่อยออกมาจากปลายเข็มโดยตรงไปยังเนื้อเยื่อเป้าหมาย

    • ความร้อนที่เกิดจากพลังงาน RF นี้เอง คือหัวใจสำคัญในการกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน และ อีลาสติน รวมถึงการจัดการกับเซลล์ไขมัน

    • พลังงาน RF จะถูกส่งจากปลายเข็มเท่านั้น (Subdermal Adipose Remodeling Device - SARD) ซึ่งหมายความว่าพลังงานจะโฟกัสไปที่ชั้นใต้ผิวหนังโดยตรง ทำให้ลดความร้อนที่ผิวชั้นบน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำหลังทำ และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งพลังงานสู่เป้าหมายได้อย่างเต็มที่


กลไกการทำงานร่วมกัน: การที่เข็มนำส่งพลังงาน RF ลงไปในชั้นผิวโดยตรง ทำให้พลังงานไปถึงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและลึกกว่าการใช้พลังงาน RF จากภายนอกเพียงอย่างเดียว ความร้อนที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้เส้นใย คอลลาเจน เดิมหดตัวและจัดเรียงตัวใหม่ทันที พร้อมกับกระตุ้นกระบวนการสร้าง คอลลาเจน และ อีลาสติน ใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

3.2. ความพิเศษของ Morpheus8 ในการแก้ไขปัญหาผิวแบบหลายมิติ

ความพิเศษของ Morpheus8 ในการแก้ไขปัญหาผิวแบบหลายมิติ
ความพิเศษของ Morpheus8 ในการแก้ไขปัญหาผิวแบบหลายมิติ

สิ่งที่ทำให้ Morpheus8 เป็นที่น่าตื่นเต้นและผม หมอโนโน่ มักจะแนะนำให้คนไข้ที่ คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ คือความสามารถในการแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม:


  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างเข้มข้น: ความร้อนจากพลังงาน RF ที่ส่งตรงถึงชั้นหนังแท้ในระดับความลึกที่เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเซลล์ Fibroblast ให้สร้าง คอลลาเจน และ อีลาสติน ใหม่ขึ้นมาในปริมาณมาก ทำให้ผิวโดยรวมมีความแน่นกระชับ ยืดหยุ่น และเต่งตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน นี่คือหัวใจของการ ยกกระชับหน้า ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน


  • ลดไขมันส่วนเกินเล็กน้อย: หนึ่งในจุดเด่นที่ Morpheus8 ทำได้ดีคือการ "สลายไขมัน" ขนาดเล็กในบางบริเวณ พลังงาน RF ที่ลงลึกสามารถสร้างความร้อนในเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนัง (Subdermal Adipose Remodeling) ทำให้เซลล์ไขมันที่ไม่พึงประสงค์เหล่านั้นเกิดการเสียหายและสลายตัวไปตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย ช่วยลดปริมาตรไขมันบริเวณ แก้มเยอะ, ใต้คาง (เหนียง), หรือบริเวณกรอบหน้าที่ดูอิ่มๆ ให้ดูเพรียวบางลงอย่างมีมิติ โดยเฉพาะไขมันที่อยู่ตื้นๆ และมีปริมาณไม่มากนัก


  • กระชับรูขุมขนและปรับผิวให้เรียบเนียน: การทำงานร่วมกันของเข็มจิ๋วที่สร้าง micro-injuries และพลังงาน RF จะกระตุ้นการซ่อมแซมและสร้าง คอลลาเจน ใหม่ในผิวชั้นบน ทำให้ผิวโดยรวมกระชับขึ้นและปรับปรุงสภาพผิวให้ดูละเอียดขึ้นอย่างมาก ทำให้ รูขุมขนที่กว้าง ดูเล็กลง ผิวหน้าจึงดูเรียบเนียนละเอียด และแต่งหน้าง่ายขึ้น


  • ลดเลือนริ้วรอยและรอยแผลเป็น: Morpheus8 มีประสิทธิภาพในการช่วย ลดริ้วรอย ตื้นๆ ที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของ คอลลาเจน และยังเป็นเทคโนโลยีที่ได้ผลดีมากในการแก้ไขปัญหา หลุมสิว ให้ตื้นขึ้น และลดรอยแผลเป็นต่างๆ ให้ดูจางลงได้


  • ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและแก้ปัญหาเม็ดสี: การฟื้นฟูผิวด้วย Morpheus8 ยังส่งผลให้เซลล์ผิวเก่าถูกผลัดออก และมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา ทำให้สีผิวโดยรวมดูสม่ำเสมอขึ้น และช่วยลดเลือนปัญหาเม็ดสีบางชนิดได้อีกด้วย


  • ครอบคลุมบริเวณกว้าง: นอกจากใบหน้าแล้ว Morpheus8 ยังสามารถใช้ในการ ยกกระชับ และฟื้นฟูผิวบริเวณลำคอ ลำตัว แขน ขา หน้าท้อง หรือก้นที่มีปัญหาผิวเปลือกส้ม (Cellulite) และความหย่อนคล้อยได้อีกด้วย

3.3. จุดเด่นที่ทำให้ Morpheus8 โดดเด่น

  • แม่นยำและควบคุมความลึกได้หลากหลาย: การที่แพทย์สามารถปรับความลึกของเข็มได้ถึง 8 มม. ทำให้สามารถส่งพลังงานไปยังชั้นผิวที่แตกต่างกันได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นชั้นหนังแท้ หนังแท้ส่วนล่าง หรือชั้นไขมันใต้ผิว

  • ผลลัพธ์ที่หลากหลายในหนึ่งเดียว: เป็นเทคโนโลยีที่สามารถแก้ไขปัญหาได้หลากหลาย ไม่ใช่แค่ ยกกระชับ แต่ยังรวมถึงการปรับปรุงคุณภาพผิว ลดไขมันเล็กน้อย และลดเลือนริ้วรอย

  • กระตุ้นคอลลาเจนเข้มข้น: เป็นการกระตุ้น คอลลาเจน ที่มีความเข้มข้นสูง ทำให้เกิดการสร้าง คอลลาเจน ใหม่ในปริมาณมาก ซึ่งส่งผลต่อความแน่นกระชับและอ่อนเยาว์ของผิว

  • ความปลอดภัยสูง: ด้วยการส่งพลังงานจากปลายเข็มโดยตรง ทำให้ผิวชั้นบนได้รับความร้อนน้อย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยไหม้ หรือรอยดำหลังทำ โดยเฉพาะในคนไข้ที่มีผิวคล้ำ

3.4. ใครที่เหมาะกับการทำ Morpheus8?

ใครที่เหมาะกับการทำ Morpheus8?
ใครที่เหมาะกับการทำ Morpheus8?

ในมุมมองของ หมอโนโน่ การทำ Morpheus8 จะให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมกับกลุ่มคนไข้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้ครับ:

  • ผู้ที่มีปัญหา ผิวหย่อนคล้อย ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง

  • ผู้ที่ต้องการ ลดไขมัน บริเวณ แก้มเยอะ หรือ เหนียง ในปริมาณที่ไม่มากนัก

  • ผู้ที่กังวลเรื่อง รูขุมขนกว้าง และต้องการให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนละเอียดขึ้น

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็กๆ หรือริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าที่ไม่ลึกมาก

  • ผู้ที่มีปัญหา หลุมสิว หรือรอยแผลเป็นจากสิว

  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวมให้ดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี และเปล่งปลั่งขึ้น

  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การ ยกกระชับ และปรับปรุงผิวพร้อมกัน โดยไม่ต้องการผ่าตัด

แม้ Morpheus8 จะมีประสิทธิภาพสูง แต่การจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้น ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยปัญหาผิวของแพทย์ การเลือกใช้หัวเข็มและความลึกที่เหมาะสม และการตั้งค่าพลังงานที่ถูกต้อง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการรักษาครับ

บทสรุปจาก ‘หมอโนโน่’ สำหรับ Morpheus8

Morpheus8 คืออีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าทึ่งในโลกของ เทคโนโลยีความงาม ครับ ด้วยการผสานพลังของเข็มจิ๋วและคลื่นวิทยุความถี่สูง ทำให้สามารถฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก กระตุ้น คอลลาเจน ได้อย่างเข้มข้น ลดไขมันส่วนเกินเล็กน้อย และปรับปรุงคุณภาพผิวให้เรียบเนียนได้อย่างน่าประทับใจ ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ เรามั่นใจว่า Morpheus8 จะเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยไข "ความลับสู่ผิวเฟิร์ม" และใบหน้าที่อ่อนเยาว์ในแบบที่คุณต้องการครับ


ใน Part ถัดไป ผมจะแนะนำอีกหนึ่งเทคโนโลยี ยกกระชับหน้า ที่เน้นความสบายผิวอย่าง Oligio ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการกระตุ้น คอลลาเจน อย่างต่อเนื่อง และหลังจากนั้น เราจะเข้าสู่การเปรียบเทียบครั้งสำคัญว่าระหว่าง Morpheus8 และ Ultherapy PRIME คุณควรเลือกอะไรดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวของคุณครับ!

Part 4: Oligio (โอลิจิโอ) – คลื่นความถี่วิทยุยกระชับผิวที่ให้ความสบาย (The Gentle Collagen Stimulator)


ใน Part ที่ 2 และ 3 เราได้เจาะลึกไปในสองเทคโนโลยีการ ยกกระชับหน้า อันทรงพลังอย่าง Ultherapy PRIME ที่เน้นการยกกระชับจากรากฐาน และ Morpheus8 ที่โดดเด่นในการฟื้นฟูผิวและลดไขมันเล็กน้อย วันนี้ผมจะขอแนะนำอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ผมให้ความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ Oligio (โอลิจิโอ) ครับ

Oligio อาจจะไม่ได้เป็น "เครื่องที่ลงลึกที่สุด" หรือ "รุนแรงที่สุด" แต่เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการ กระตุ้นคอลลาเจน อย่างต่อเนื่อง ให้ผลลัพธ์ที่แน่นกระชับแบบสบายผิว และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยรวมให้ดูสดใสและอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ที่ Entrio Clinic เรามองว่า Oligio เป็นเหมือน "เพื่อนคู่ใจ" ที่ช่วยคงความอ่อนเยาว์และดูแลผิวของคุณในระยะยาวครับ

4.1. หลักการทำงานของ Oligio: คลื่น RF พลังงานเดียว กระตุ้นคอลลาเจนอย่างอ่อนโยน

หลักการทำงานของ Oligio: คลื่น RF พลังงานเดียว กระตุ้นคอลลาเจนอย่างอ่อนโยน
หลักการทำงานของ Oligio: คลื่น RF พลังงานเดียว กระตุ้นคอลลาเจนอย่างอ่อนโยน

Oligio เป็นเทคโนโลยี Monopolar Radiofrequency (RF) หรือ คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับ Thermage (แต่มีพัฒนาการและเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า) หลักการทำงานของ Oligio เน้นการส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวอย่างสม่ำเสมอและอ่อนโยน:

  • พลังงาน RF แบบขั้วเดียว: Oligio ปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูงออกมาจากหัวทิป (Tip) ขนาดใหญ่ ซึ่งพลังงานนี้จะวิ่งจากหัวทิปผ่านชั้นผิวหนัง ลงไปสู่แผ่นรองรับพลังงาน (Return Pad) ที่ติดอยู่บนร่างกาย

  • สร้างความร้อนในชั้นผิวลึก: ขณะที่พลังงาน RF เดินทางผ่านชั้นผิว มันจะสร้างความร้อนสะสมขึ้นในเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะในชั้น หนังแท้ (Dermis) และชั้น ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิว (ประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส)

  • สองกลไกสำคัญในการกระตุ้นคอลลาเจน:

    • การหดตัวของคอลลาเจน (Collagen Contraction): ความร้อนที่เกิดขึ้นจะทำให้เส้นใย คอลลาเจน เดิมที่มีอยู่เกิดการหดตัวทันที ทำให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้นเล็กน้อยหลังทำ

    • การสร้างคอลลาเจนใหม่ (Neocollagenesis): นี่คือหัวใจหลักของ Oligio ครับ ความร้อนจะกระตุ้นเซลล์ Fibroblast (เซลล์สร้างเส้นใย) ให้ผลิต คอลลาเจน และ อีลาสติน ใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ยืดหยุ่น และแน่นกระชับขึ้น

4.2. จุดเด่นและผลลัพธ์ที่คาดหวังจาก Oligio

จุดเด่นและผลลัพธ์ที่คาดหวังจาก Oligio
จุดเด่นและผลลัพธ์ที่คาดหวังจาก Oligio

Oligio มีจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างจากเครื่อง ยกกระชับหน้า อื่นๆ โดยเฉพาะในเรื่องของความสบายและผลลัพธ์ที่เน้นการฟื้นฟูคุณภาพผิว:

  • กระตุ้นคอลลาเจนทั่วหน้าอย่างสม่ำเสมอ: ด้วยหัวยิงขนาดใหญ่และพลังงาน RF ที่กระจายตัวได้ดี Oligio สามารถส่งผ่านความร้อนเพื่อ กระตุ้นคอลลาเจน ได้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ทำให้ผิวโดยรวมดูแน่นกระชับ ฟูขึ้น และยืดหยุ่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เน้นการยกดึงอย่างรุนแรง แต่เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงจากภายใน

  • ลดความหย่อนคล้อยเล็กน้อย: แม้จะไม่ลงลึกถึง ชั้น SMAS เหมือน Ultherapy PRIME แต่ Oligio ก็สามารถช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางได้ ทำให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้นและได้รูปทรงมากขึ้น

  • ปรับปรุงคุณภาพผิวและลดริ้วรอยตื้นๆ: การสร้าง คอลลาเจน ใหม่และจัดเรียงตัวของเส้นใยเดิม ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น รูขุมขน ดูเล็กลง และริ้วรอยเล็กๆ (Fine Lines) ที่เกิดจากผิวแห้งหรือการเสื่อมสภาพของ คอลลาเจน ก็ดูจางลงด้วย

  • เพิ่มความเปล่งปลั่งและสุขภาพดี: เมื่อผิวมีการสร้าง คอลลาเจน และได้รับความร้อนที่เหมาะสม จะช่วยให้ระบบการไหลเวียนใต้ผิวดีขึ้น ทำให้ผิวดูสดใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และดูสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

  • ความสบายในการรักษา (Comfortable Experience): นี่คือจุดเด่นที่สำคัญมากๆ ของ Oligio ครับ

    • ระบบ Cooling System (เทคโนโลยี Comfort Cooling™): หัวทิปของ Oligio มีระบบทำความเย็นแบบ Real-time ที่สัมผัสกับผิวตลอดเวลา ทำให้ผิวชั้นบนไม่รู้สึกร้อนจัดในขณะที่พลังงานถูกส่งลงสู่ชั้นลึก ช่วยลดความรู้สึกไม่สบายผิวหรือความเจ็บปวดได้อย่างมาก

    • ระบบสั่น (Vibration Mode): บางหัวทิปของ Oligio มีระบบสั่นที่ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากความร้อน ทำให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายและสบายยิ่งขึ้น

    • ทำได้โดยไม่ต้องใช้ยาชา (ในหลายกรณี): ด้วยความสบายที่เพิ่มขึ้น หลายๆ เคสจึงไม่จำเป็นต้องทายาชา ทำให้ประหยัดเวลาและขั้นตอนการทำหัตถการ

  • สามารถทำได้บ่อยครั้งเพื่อผลลัพธ์ต่อเนื่อง: ด้วยความอ่อนโยนและปลอดภัยของพลังงาน ทำให้ Oligio สามารถทำได้บ่อยกว่าหัตถการที่ลงลึกมาก เช่น ทุก 4-6 เดือน เพื่อการบำรุงและ กระตุ้นคอลลาเจน อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานและสะสมเพิ่มขึ้น

4.3. ใครที่เหมาะกับการทำ Oligio?

ใครที่เหมาะกับการทำ Oligio?
ใครที่เหมาะกับการทำ Oligio?

ในมุมมองของ หมอโนโน่ การทำ Oligio เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนไข้กลุ่มนี้ครับ:

  • ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนทั่วใบหน้าและลำคอ: เพื่อให้ผิวโดยรวมดูแน่นกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้น

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่มาก: เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของความหย่อนคล้อยเล็กน้อย หรือต้องการคงสภาพความกระชับของผิวไว้

  • ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิว: เช่น ต้องการให้ผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง และผิวดูเปล่งปลั่งสดใส

  • ผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บปวด: ด้วยระบบทำความเย็นและเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อความสบาย ทำให้ Oligio เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มี Pain Threshold ต่ำ หรือไม่ต้องการความรู้สึกไม่สบายผิวมากนัก

  • ผู้ที่ต้องการทำหัตถการเพื่อบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง: สามารถใช้ Oligio เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการดูแลผิวระยะยาว หรือใช้เสริมผลลัพธ์จากการทำหัตถการ ยกกระชับหน้า ที่ลงลึกกว่าอย่าง Ultherapy PRIME

บทสรุปจาก ‘หมอโนโน่’ สำหรับ Oligio

บทสรุปจาก ‘หมอโนโน่’ สำหรับ Oligio
บทสรุปจาก ‘หมอโนโน่’ สำหรับ Oligio

Oligio ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในโลกของ เทคโนโลยีความงาม และเป็นบริการที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ ภูมิใจนำเสนอครับ ด้วยหลักการทำงานของ Monopolar RF ที่เน้นการ กระตุ้นคอลลาเจน ทั่วใบหน้าอย่างอ่อนโยน พร้อมความสบายสูงสุดในการทำหัตถการ ทำให้ Oligio เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการฟื้นฟูคุณภาพผิว ลดความหย่อนคล้อยเล็กน้อย และทำให้ผิวของคุณดูสดใส เปล่งปลั่ง และอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ


ผมเชื่อว่าความงามไม่ได้มีเพียงมิติเดียว การมีผิวที่สุขภาพดีและเปล่งปลั่งจากภายในก็สำคัญไม่แพ้การ ยกกระชับหน้า ครับ และ Oligio ก็เข้ามาตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


ใน Part ถัดไป ซึ่งเป็น Part สุดท้ายของบทความชุดนี้ ผมจะสรุปและเปรียบเทียบทั้ง Ultherapy PRIME, Morpheus8, และ Oligio อย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า "หัตถการไหนคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ" พร้อมทั้งย้ำถึงเหตุผลที่ Entrio Clinic ควรเป็นคลินิกที่คุณไว้วางใจในการค้นพบ "ความลับสู่ผิวเฟิร์ม" ครับ!

Part 5: Morpheus8 vs Ultherapy PRIME vs Oligio: เลือกหัตถการ 'ยกกระชับหน้า' แบบไหนดี? คำตอบจาก 'หมอโนโน่'

Morpheus8 vs Ultherapy PRIME vs Oligio: เลือกหัตถการ 'ยกกระชับหน้า' แบบไหนดี? คำตอบจาก 'หมอโนโน่'
Morpheus8 vs Ultherapy PRIME vs Oligio: เลือกหัตถการ 'ยกกระชับหน้า' แบบไหนดี? คำตอบจาก 'หมอโนโน่'

เราเดินทางมาถึง Part ที่ 5 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของบทความชุดนี้แล้วนะครับ ใน Part ก่อนหน้า ผมได้พาคุณเจาะลึกถึงหลักการทำงาน จุดเด่น และผลลัพธ์ของ 3 เทคโนโลยี ยกกระชับหน้า ยอดนิยมที่เราให้ความสำคัญที่ Entrio Clinic นั่นคือ Ultherapy PRIME, Morpheus8 และ Oligio


วันนี้ คำถามที่รอคอยและเป็นคำถามยอดฮิตที่สุดก็คือ "แล้วควรเลือกทำหัตถการไหนดีคะ/ครับ ระหว่าง Morpheus8 กับ Ultherapy PRIME หรือแม้กระทั่ง Oligio?" ผมเข้าใจดีว่าการตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ เพราะแต่ละเครื่องก็มีจุดเด่นและกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน


ในฐานะ หมอโนโน่ ผมขอย้ำอีกครั้งว่า "ไม่มีหัตถการใดที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มีหัตถการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ!" การจะหาคำตอบที่ "ใช่" นั้น ต้องอาศัยการประเมินอย่างละเอียดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และความเข้าใจในปัญหาผิวของคุณอย่างถ่องแท้ครับ


วันนี้ผมจะมาสรุปและเปรียบเทียบความแตกต่างอย่างชัดเจน พร้อมให้คำแนะนำจากประสบการณ์ตรง เพื่อเป็นแนวทางให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ

5.1. ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติหลัก: Ultherapy PRIME, Morpheus8, Oligio

เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน ผมได้จัดทำตารางสรุปคุณสมบัติหลักของทั้งสามเทคโนโลยี เพื่อให้คุณมองเห็นภาพรวมและจุดเด่นของแต่ละเครื่องได้อย่างรวดเร็ว:

คุณสมบัติ

Ultherapy PRIME (MFU-V)

Morpheus8 (RF Microneedling)

Oligio (Monopolar RF)

ประเภทพลังงาน

คลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง (MFU-V)

คลื่นวิทยุความถี่สูง + เข็มขนาดเล็ก (RF Microneedling)

คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF)

ความลึกการลงพลังงาน

ลงลึกที่สุด 1.5, 3.0, 4.5 มม. (เน้น SMAS)

หลากหลายและควบคุมได้ 1 - 8 มม. (ตั้งแต่ผิวตื้นถึงไขมัน)

ปานกลาง: 2-3 มม. (เน้นชั้นหนังแท้และไขมันบางส่วน)

เป้าหมายหลัก

ยกกระชับโครงสร้าง SMAS, ลดความหย่อนคล้อยจากรากฐาน

กระตุ้นคอลลาเจน, กระชับรูขุมขน, ลดไขมันเล็กน้อย

กระตุ้นคอลลาเจน ทั่วหน้า, ผิวแน่นกระชับเล็กน้อย

ผลลัพธ์เด่น

ยกกระชับหน้า, คืน กรอบหน้าคมชัด, ลด เหนียงย้อย, คิ้ว/ตาดูยกขึ้น

ผิวเรียบเนียน, รูขุมขนกระชับ, ลดไขมันแก้ม/เหนียงเล็กน้อย, ลดหลุมสิว

ผิวเปล่งปลั่ง, กระชับผิวทั่วหน้า, ผิวดูสุขภาพดี, สบายผิว

ความรู้สึกขณะทำ

อุ่นๆ ลึกๆ ถึงชั้นกล้ามเนื้อ อาจมีจี๊ดๆ บางจุด

อุ่นและมีแรงกดจากเข็ม อาจมีการทายาชา/ฉีดยาชา (ตามความลึก)

อุ่นสบายผิว มีระบบ Cooling ป้องกันผิวดีเยี่ยม (แทบไม่ต้องทายาชา)

จำนวนครั้งที่แนะนำ

1 ครั้ง/ปี (ผลลัพธ์อยู่ได้ 1-1.5 ปี)

1-3 ครั้ง (เว้นระยะ 4-6 สัปดาห์)

1-3 ครั้ง (เว้นระยะ 4 - 6 สัปดาห์) สามารถทำต่อเนื่องได้

เหมาะกับใคร

ผิวหย่อนคล้อยมาก, กรอบหน้าไม่ชัดเจน, เหนียงย้อย, ต้องการยกกระชับลึก

รูขุมขนกว้าง, ผิวไม่เรียบ, ไขมันแก้ม/เหนียงเล็กน้อย, ริ้วรอยตื้น, หลุมสิว

ต้องการกระตุ้น คอลลาเจน สบายๆ, ผิวหย่อนคล้อยไม่มาก, บำรุงผิวต่อเนื่อง

5.2. คำแนะนำจาก 'หมอโนโน่': การเลือกหัตถการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

คำแนะนำจาก 'หมอโนโน่': การเลือกหัตถการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
คำแนะนำจาก 'หมอโนโน่': การเลือกหัตถการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

จากประสบการณ์ของผมที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ ผมจะพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ในการให้คำแนะนำคนไข้แต่ละรายครับ:


1. ปัญหาหลักของคุณคืออะไร? (What is your primary concern?)

  • หากคุณกังวลเรื่อง 'ความหย่อนคล้อยอย่างชัดเจน', 'กรอบหน้าไม่คมชัด' และมี 'เหนียงย้อย' เป็นหลัก:

    • ผมมักจะแนะนำ Ultherapy PRIME เป็นตัวเลือกแรกครับ เพราะพลังงาน MFU สามารถลงลึกถึง ชั้น SMAS ซึ่งเป็นรากฐานของการยกกระชับ ทำให้เกิดการยกกระชับโครงสร้างที่สำคัญที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพและผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะมาจากภายในอย่างเป็นธรรมชาติ

  • หากคุณกังวลเรื่อง 'รูขุมขนกว้าง', 'ผิวไม่เรียบเนียน', 'ริ้วรอยเล็กๆ' หรือมี 'ไขมันสะสมบริเวณแก้ม/เหนียงไม่มาก' และอยากได้ผิวที่กระชับและมีคุณภาพที่ดีขึ้นด้วย:

    • Morpheus8 คือคำตอบที่ใช่ครับ มันทำงานได้ดีเยี่ยมในการปรับปรุงคุณภาพผิว กระชับรูขุมขน สลายไขมันเล็กน้อย และฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

  • หากคุณต้องการ 'กระตุ้นคอลลาเจนทั่วหน้า' อย่างต่อเนื่อง 'ลดความหย่อนคล้อยไม่มาก' และต้องการ 'ความรู้สึกสบาย' ในระหว่างทำหัตถการ:

    • Oligio จะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมครับ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นดูแลผิว หรือใช้เป็นการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่องเพื่อคงความอ่อนเยาว์


2. ระดับความรุนแรงของปัญหา (Severity of the problem):

  • หย่อนคล้อยมาก-ปานกลาง: Ultherapy PRIME มักจะเป็นตัวเลือกหลัก

  • หย่อนคล้อยน้อย, ผิวไม่เรียบ, มีไขมันเล็กน้อย: Morpheus8 หรือ Oligio อาจเป็นทางเลือกที่ดี


3. งบประมาณและการดูแลในระยะยาว (Budget and long-term commitment):

  • Ultherapy PRIME มักจะทำเพียง 1 ครั้งต่อปี

  • Morpheus8 และ Oligio อาจจะต้องทำเป็นคอร์ส (2-3 ครั้ง) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และสามารถทำซ้ำได้บ่อยกว่าเพื่อคงสภาพ


4. ความกังวลเรื่องความรู้สึกขณะทำ (Comfort Level):

  • Ultherapy PRIME อาจมีความรู้สึกจี๊ดๆ ลึกๆ

  • Morpheus8 จะมีการทายาชา และอาจฉีดยาชา เพื่อลดความรู้สึกไม่สบายผิว

  • Oligio ถือว่าสบายผิวที่สุด ด้วยระบบ Cooling ที่ดีเยี่ยม

5.3. การรักษาแบบ 'Combination Treatment': เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ในหลายๆ ครั้ง ผม หมอโนโน่ มักจะแนะนำคนไข้ให้พิจารณาการทำ "Combination Treatment" หรือการผสมผสานเทคนิคต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาดและเป็นวิทยาศาสตร์ ที่ Entrio Clinic เราเชื่อว่านี่คือแนวทางที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพราะปัญหาผิวส่วนใหญ่มักเกิดจากหลายสาเหตุร่วมกันครับ:


  • Ultherapy PRIME + Morpheus8: คู่หูแห่งการเปลี่ยนแปลง (The Ultimate Duo)

    • Ultherapy PRIME จะเข้าจัดการปัญหาความหย่อนคล้อยจากโครงสร้างชั้นลึกสุดอย่าง ชั้น SMAS ยกกระชับกรอบหน้าและลดเหนียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    • Morpheus8 จะเข้ามาเติมเต็มในส่วนของปัญหาผิวชั้นบนและกลาง ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น กระชับรูขุมขน ลดไขมันส่วนเกินเล็กน้อย และกระตุ้น คอลลาเจน ที่ผิวชั้นบนอย่างเข้มข้น

    • ผลลัพธ์: การทำร่วมกันนี้จะช่วยให้คุณได้ทั้งใบหน้าที่ยกกระชับ คมชัด และผิวพรรณที่ดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน ไร้ที่ติ ถือเป็นการฟื้นฟูผิวแบบ 360 องศา ที่ให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าการทำเพียงอย่างเดียวอย่างชัดเจน


  • Ultherapy PRIME + Oligio: การดูแลความอ่อนเยาว์ที่ยั่งยืน

    Ultherapy PRIME + Oligio: การดูแลความอ่อนเยาว์ที่ยั่งยืน
    Ultherapy PRIME + Oligio: การดูแลความอ่อนเยาว์ที่ยั่งยืน
    • เริ่มต้นด้วย Ultherapy PRIME เพื่อการยกกระชับโครงสร้างหลักจากภายในอย่างแข็งแรงและยาวนาน

    • ตามด้วย Oligio เป็นการบำรุงและ กระตุ้นคอลลาเจน ทั่วใบหน้าอย่างต่อเนื่องในระยะยาว (เช่น ทุก 4-6 สัปดาห์)

    • ผลลัพธ์: ช่วยคงความกระชับและความอ่อนเยาว์ของผิวไว้ให้นานที่สุด ทำให้ผิวดูแน่นและเปล่งปลั่งอย่างสม่ำเสมอ


  • Morpheus8 + สกินบูสเตอร์/ฟิลเลอร์งานผิว:

    Morpheus8 + สกินบูสเตอร์/ฟิลเลอร์งานผิว
    Morpheus8 + สกินบูสเตอร์/ฟิลเลอร์งานผิว
    • Morpheus8 ช่วยปรับปรุงโครงสร้างผิว รูขุมขน และริ้วรอย

    • การเติม สกินบูสเตอร์ หรือ ฟิลเลอร์งานผิว จะช่วยเติมความชุ่มชื้น ล้ำลึก เพิ่มความฉ่ำวาว และเสริมความแข็งแรงให้ผิวจากภายใน

    • ผลลัพธ์: ผิวจะดูเรียบเนียนละเอียด กระชับ และมีความเปล่งปลั่งฉ่ำวาวราวกับกระจก


การผสมผสานเทคนิคเหล่านี้ต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าแต่ละหัตถการจะส่งเสริมกันและกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับคุณครับ

บทสรุปจาก 'หมอโนโน่' สำหรับการเลือกหัตถการ ยกกระชับหน้า 

แม้จะก้าวเข้าสู่วัย 30+ ผิวพรรณยังดูอ่อนเยาว์และสดใสได้✨ กับทริคการดูแลผิวใน " #วัยเลข3 " ที่จะช่วยให้คุณดูดีขึ้นอย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องพักฟื้นนานจาก #คุณหมอโนโน่ ที่ #ENTRIOCLINIC
แม้จะก้าวเข้าสู่วัย 30+ ผิวพรรณยังดูอ่อนเยาว์และสดใสได้✨ กับทริคการดูแลผิวใน " #วัยเลข3 " ที่จะช่วยให้คุณดูดีขึ้นอย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องพักฟื้นนานจาก #คุณหมอโนโน่ ที่ #ENTRIOCLINIC

การเลือกหัตถการ ยกกระชับหน้า ไม่ว่าจะเป็น Morpheus8, Ultherapy PRIME หรือ Oligio ควรเริ่มต้นด้วยการ "ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ" อย่างละเอียด ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ ผม หมอโนโน่ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะรับฟังความกังวลของคุณ ประเมินสภาพผิวหน้าอย่างพิถีพิถัน และแนะนำแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณโดยเฉพาะ


ผมเชื่อว่าความงามที่แท้จริงคือความงามที่เป็นธรรมชาติ และความมั่นใจที่มาจากภายใน ผมและทีมงานพร้อมที่จะใช้ความรู้ ประสบการณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด เพื่อช่วยให้คุณค้นพบ "ความลับสู่ผิวเฟิร์ม" ที่เป็นของคุณเองครับ ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับกรอบหน้าให้คมชัด การลดเลือนริ้วรอย หรือการปรับปรุงคุณภาพผิวให้เรียบเนียนเปล่งปลั่ง


ใน Part สุดท้าย ผมจะสรุปถึงเหตุผลทั้งหมดที่คุณควรเลือก Entrio Clinic เป็นคู่คิดด้านความงาม และมอบความมั่นใจที่คุณจะได้รับกลับไปครับ!

Part 6: เหตุผลที่คุณควรเลือก 'Entrio Clinic' สำหรับการ 'ยกกระชับหน้า' ที่ คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์

เหตุผลที่คุณควรเลือก 'Entrio Clinic' สำหรับการ 'ยกกระชับหน้า' ที่ คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์
เหตุผลที่คุณควรเลือก 'Entrio Clinic' สำหรับการ 'ยกกระชับหน้า' ที่ คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์

การตัดสินใจเลือก คลินิกเสริมความงาม ที่จะดูแลใบหน้าของคุณ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบครับ ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ ผม หมอโนโน่ และทีมงานทุกคน มีความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การดูแลที่ยอดเยี่ยม และผลลัพธ์ที่คุณพึงพอใจสูงสุด ด้วยเหตุผลเหล่านี้:


6.1 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงพร้อมประสบการณ์

  • ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ: ผม นายแพทย์ ชนภัทร ชินเวชกิจวานิชย์ มีความรู้และประสบการณ์ตรงด้าน หัตถการยกกระชับหน้า และการปรับรูปหน้ามาอย่างยาวนาน ผมเข้าใจกายวิภาคของใบหน้าอย่างลึกซึ้ง และได้รับการอบรมเทคนิคการใช้ Ultherapy PRIME, Morpheus8, Oligio และหัตถการอื่นๆ มาโดยตรง

  • การประเมินและวางแผนเฉพาะบุคคล: ผมให้ความสำคัญกับการประเมินใบหน้าของคุณอย่างละเอียดในทุกมิติ รับฟังความกังวลและเป้าหมายของคุณ เพื่อออกแบบ "แผนการรักษาเฉพาะบุคคล" ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณเท่านั้น ไม่มีการทำหัตถการแบบ "เหมาโหล"


6.2 เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ของแท้ 100% พร้อมการรับรอง

  • มั่นใจในคุณภาพ: เราลงทุนใน เทคโนโลยีความงาม ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง และที่สำคัญคือต้องเป็น เครื่องแท้ 100% ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานสากลและในประเทศเท่านั้นครับ เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพและ ความปลอดภัย สูงสุด:

    • เครื่อง Ultherapy PRIME ของแท้: นำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetics ประเทศสหรัฐอเมริกา

    • เครื่อง Morpheus8 ของแท้: จากบริษัท InMode ประเทศแคนาดา

    • เครื่อง Oligio ของแท้: จากบริษัท WONTECH ประเทศเกาหลีใต้

  • ปลอดภัยไร้กังวล: เราไม่ใช้เครื่องปลอมหรือลอกเลียนแบบ เพราะเรารู้ดีว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างกันมาก และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของ ความปลอดภัย ที่ไม่สามารถประนีประนอมได้


6.3 บรรยากาศคลินิกที่สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว

  • ทำเลที่ตั้งโดดเด่น: Entrio Clinic ตั้งอยู่ใจกลาง ย่านราชประสงค์ ที่ชั้น 4 ตึกเอราวัณ แบงค็อก (Erawan Bangkok) เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ BTS ชิดลม ทำให้คุณเข้าถึงบริการของเราได้อย่างง่ายดาย

  • ความสะอาดและสุขอนามัย: เราให้ความสำคัญกับความสะอาดและสุขอนามัยอย่างสูงสุด คลินิกของเราได้รับการออกแบบมาให้มีความโปร่งโล่ง สบายตา และเป็นส่วนตัว เพื่อให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจในทุกขั้นตอนการรักษา


6.4 การดูแลและติดตามผลอย่างใกล้ชิด

  • ใส่ใจในทุกรายละเอียด: การรักษาไม่ได้จบลงแค่ในห้องทำหัตถการครับ เรามีการให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังทำหัตถการอย่างละเอียด และมีการนัดหมายเพื่อติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  • พร้อมให้คำปรึกษา: หากคุณมีข้อสงสัยหรือความกังวลใดๆ หลังจากทำหัตถการ ทีมงานและผมพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณอย่างใกล้ชิดเสมอ

บทสรุปจาก 'หมอโนโน่': ค้นพบผิวเฟิร์มในแบบที่เป็นคุณ

บทสรุปจาก 'หมอโนโน่': ค้นพบผิวเฟิร์มในแบบที่เป็นคุณ
บทสรุปจาก 'หมอโนโน่': ค้นพบผิวเฟิร์มในแบบที่เป็นคุณ

การตัดสินใจเลือกหัตถการ ยกกระชับหน้า อย่าง Morpheus8 หรือ Ultherapy PRIME หรือแม้แต่ Oligio ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ แต่ด้วยข้อมูลที่ครบถ้วน และการประเมินจาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่างใกล้ชิด คุณจะสามารถเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับปัญหาผิวและเป้าหมายความงามของคุณได้อย่างมั่นใจ


ที่ Entrio Clinic คลินิกเสริมความงาม ย่านราชประสงค์ ผม หมอโนโน่ พร้อมที่จะเป็นผู้ช่วยในการค้นหา "ความลับสู่ผิวเฟิร์ม" ของคุณ เรามุ่งมั่นที่จะรังสรรค์ความงามที่เป็นธรรมชาติ มอบผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับคุณในทุกมิติครับ


หากคุณกำลังมองหา คลินิกเสริมความงาม ที่พร้อมจะดูแลคุณด้วยความเข้าใจ ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ผมขอเรียนเชิญคุณมาปรึกษากับผมที่ Entrio Clinic นะครับ เรายินดีที่จะให้คำแนะนำและออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ เพื่อให้คุณได้พบกับผิวที่แน่นกระชับ อ่อนเยาว์ และเปล่งประกายความมั่นใจในแบบที่เป็นคุณที่สุดครับ

Entrio Clinic - Refined Aesthetic Experience 

“เราเชื่อว่า ความสวยที่แท้จริง มาจากสุขภาพผิวที่ดี และความเข้าใจในวิทยาศาสตร์” 

📍 ที่ตั้ง: https://maps.app.goo.gl/X9WpN51pnK5otKip8

ชั้น 4 ตึกเอราวัณ แบงค็อก (Erawan Bangkok), สี่แยกราชประสงค์ (หลังศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ) กรุงเทพมหานคร 

💬 Line: @‌entrioclinic หรือคลิก bit.ly/EntrioLine

📞 โทร: 097-154-2222

🌐 Website: entrioclinic.com

📷 Instagram: entrioclinic หรือคลิ๊ก instagram.com/entrioclinic/

 
 
 

Comments


© 2024 เอ็นทริโอ คลินิก. สงวนลิขสิทธิ์

bottom of page